แค่ก ๆ ช่วงนี้กุไม่สบาย เป็นเพราะอากาศเปลี่ยนบ่อย
ถึงแม้หนังกุจะหนา หน้ากุจะด้านเพียงใด
กุก็ขอเหอะอากาศเปลี่ยนงี้หลาย ๆ ครั้ง
ต่อให้หนังหนาปานหนังแรดแค่ไหน กุก็ไม่สู้หรอก
เย็ดแม่ !
แต่เพื่อนบางคนก็แซวกุจนได้ว่า " แหม มึงไม่สบายกายหรือใจล่ะ "
ไม่มีเหี้ยไรจะถามกุแล้วใช่มั้ย ? มาแซวกุเรื่องนี้ มาฆ่ากุให้ตายห่าไปเลยดีกว่าค่ะ
เจ็บจี๊ด ดั่งทศกัณฑ์โดนทิ่มหัวใจที่แปลงเป็นแมลงภู่ ณ เขาพระสุเมรุ
และตลอดหน้าหนาว กุก็เป็นไข้ป่วงห่านี่ ตั้งกะต้นฤดูกันเลยทีเดียว
อันตัวกุก็มิได้บอบบางเหมือนน้องปอย ตรีชฎา แต่อย่างใด
( กะเทยแม่งยังบอบบางกว่ากุง่ะ กรี๊ดดดด )
เมื่ออากาศหนาวกัดกร่อนร่างกายกุให้แย่แล้ว
กุจึงตัดสินใจก่อนจะสิ้นลมหายใจ
โดยที่ยังมะได้ทำประโยชน์ให้กับชาติบ้านเมือง และผองชนร่วมโลก
( จะลิเกไปไหนล่ะสัด )
ดังนั้น กุแม่งตัดสินใจ พาร่างกันถึก ดั่งควายโกรธ ไปหาหมอ
ไปนั่งรอหมา เอ๊ย ! หมอ ซัก ครึ่งชั่วโมง
นี่ถ้ากุโคม่า กุตายห่าไปตั้งกะวินาทีแรกแระ
ปกติที่คลินิกนี้จะต้องรอหมอ ก็ทั้ง ๆ ที่กุก็รู้ แต่ก็ยังเสือกมา
ดังนั้น หมอไม่ผิด ไม่มีใครผิดเล้ย มองมาที่กุ๊ กุเอ๊ง
กุผิดเอ๊ง ยอมรับอย่างหน้าตาเฉย ( และแอบแสยะยิ้มแรด ๆ นิดนึง )
กุขี้เกียจไปโรงพยาบาล ต้องรอนาน นั่งจนเหน็บแดกตูด
หมอก็คงยังไม่เรียกกุเป็นแน่
จำได้ว่าคลินิกนี้กุเคยมาเมื่อฤดูหนาวปีที่แล้ว โดนฉีดยาไป 3 เข็ม
หาเงินมาได้เท่าไหร่ เอาไปเป็นค่ายาหมด
คุ้มจริง ๆ ควยเอ๊ย
และก็อย่างที่บอก คือรู้ทั้งรู้อยู่แล้วเต็มอก น้อย ๆ ไม่ค่อยมีนม
ว่า ... มันต้องรอนาน แต่มันรู้สึกดีว่ะ ที่กุได้มีโอกาสมาสัมผัสคลินิก
ไม่ต้องนั่งมองหน้าคนไข้ด้วยกันในโรงพยาบาล
ถ้าเป็นปลากัด แม่งท้องกันเต็มโรงพยาบาลแน่ ๆ
ใครร้องโอดร้องโอย กุก็สยิว แม่งจะมาตายต่อหน้ากุมั้ยเนี่ย
ลุ้นแล้วลุ้นอีก
ฉะนั้น การมาคลินิก ถึงแม้จะนั่งรอหมอ แต่กุสบายใจกว่ามาก
ไม่ต้องมองหน้าแล้วท้อง หรือกลัวคนตายผ่านหน้า หรืออะไร
แค่ได้มองหน้าน้องที่ทำบัตรให้ก็พอแระ กุไม่มีปัญหา
( หรือใครจะมีปัญหากับกุ ? )
บรรยากาศตึงเครียด เพราะคลินิคเปิดข่าวการเมือง
กุก็เริ่มหงุดหงิด แม่ง ป่วยก็ป่วย เสือกมาเจอเรื่องการเมืองตอแหลอีก
ยิ่งรู้สึกว่า ความตอแหลในตัวกุจะโดนนักการเมืองแย่งไปหลายต่อหลายครั้ง
ใจกุ สั่นระริก ๆ เยี่ยงสาวแรกรุ่นโดนผู้ชายจีบ
กลัวว่าความตอแหลที่กุได้ดูในทีวี
จะทำลายต่อมตอแหลภายในตัวกุให้แตกซ่าน
รอคุณหมอ ก็ยังไม่มา กุก็เริ่มเบื่อกับทีวี ( ก็แม่งตอแหล อะ )
มองหน้าน้องคนนั้น สลับกับการมองน้ำไหลนอกกระจกหน้าคลินิก
ใจก็ปั่นป่วน แต่ก็ไม่ได้หน้าหงิกเหมือนปวดขี้ ขี้ไม่ออก ป่วย
ทำไงดี
หันรีหันขวาง หมอทำไมช้าจังวะ
คิดในใจแล้วว่า ถ้ากุตายนะ กุจามาหลอกหมอ ฝันไปเหอะว่ากุจะเอาเลขมาให้
กุจาบอกเลขผิด ๆ ให้โดนแดกแม่งเยย งิงิ ซาหนุกจางเรย
เมื่อน้องคนนั้นเห็นกุป่วง ๆ น้องจึงนำเครื่องมือวัดความดวยหัวคัน
เอ๊ย ! เครื่องมือวัดความดัน มาวัดให้ อุ๊ย กุปกติง่ะ
แต่แอบมีไข้ อ๊ะ ไม่ได้แอบนี่ กุเป็นไข้จริง ๆ
( ทำเป็นใช้คำว่าแอบ จะได้ดูว่ากุแอ๊บแบ๊ว เป็นวัยรุ่น )
เค้าเริดมาก ส่วนใหญ่เห็นเป็นปรอทให้อมใต้ลิ้น
แต่คลินิคนี้เป็นแถบเหี้ยไรวะ คล้าย ๆ แม่มึง เอ๊ย แม่เหล็กง่ะ
กุก็ไม่รู้จัก เพราะยังไม่เคยมีผัวเป็นหมอ
ไว้มีผัวเป็นหมอกุค่อยมาเขียนเฉลยแล้วกันว่ามันคืออะไร
พอเอาอีแถบนี่ออก ก็เสือกรู้เลยว่า " พี่มีไข้นะคะ "
อีน้อง หรืออีพี่คนนี้แม่งรู้ได้ไงว่า
น้ำหน้าอย่างกุ จะเป็นพี่เมิง เอ๊ะอินี่ ตบกับกุมั้ย
น่าจะเรียกกุว่าน้องสิ น้องน่ะ กุหน้าแก่กว่ามึงยังไง
ก็ควรเรียกกุว่าน้อง !!!
อินี่ไม่มีหัวในเรื่องการตลาดเลย คนโดนเรียกพี่จิตใจก็ยิ่งป่วงไปใหญ่
ไม่มีสมอง !
( กุว่าตัวกุนี่แหละ งี่เง่าไร้สมองกว่าเค้า ฮ่าๆ )
พอคุณหมอมา กุก็เข้าไปตรวจ
คุณหมอให้กุอ้าขา อ๊ะ มะช่าย !
อ้าปาก เพราะกุบอกว่า
" เจ็บคอค่ะ "
พออ้าปาก ยังไม่ทันได้อ้ากว้าง ๆ เลย
แม่งหยั่งรู้ได้ไงวะว่าคอกุอักเสบ หมอเก่งว่ะ
อ้าปากนิดเดียว รู้ไปถึงไส้ติ่งกุเยย
แล้วก็บอกกุว่า
" นอนตะแคงค่ะ "
แว้กกกกกกกกกกกกกกก
กุจะโดนฉีดยาเหรอ กุเป็นอันงุงงงอย่างแรง
ไม่ได้กลัวฉีดยานะ แต่กุมาหาหมอคลินิกนี้ทีไร
กุต้องเป็นโดนฉีดยาทุกที
ใจกุน่ะอยากฉีดให้มันหาย ๆ แต่พี่ที่ออฟฟิศดันเตือนกุมาก่อนว่า
" การฉีดยาไม่ใช่เรื่องดีนะบลิว มันเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ไม่ค่อยมีใครฉีดหรอก "
อ่าว เวรแล้ว หมอเค้าเห็นกุเป็นอมตะหรือเยี่ยงไร ?
จึงมิได้เกรงกลัวว่ากุจะตายหรือกลายเป็นอีผีบ้าอะไรเลย
เอ่อ ... คุณหมอคะ เวลาที่คุณหมอจิ้มเข็มมาน่ะค่ะ
กรุณาเอาตามามองกุด้วย
ชิบหาย
คิดจะทิ่มแม่งก็ทิ่ม นี่เนื้อกุนะ ฉีดยาดี ๆ แม่งฉีดเป็นมั้ย ?
คือหัดเอาลูกกะตา เหลือบมามองกุซักนิดก็ยังดีค่ะ
อย่าได้เหลือบตาไปมองซองยา แล้วใช้แขนข้างขวาจิ้มเข็มลงมา
กุเจ็บ !!!
จากนั้น คุณหมอก็บอกกุว่า
" นู๋ควรแดกยาด้วยนะคะ ไว้มาในวันที่หมอนัดนู๋อีก 3 วันค่ะ มาตรวจซ้ำอีกที "
พอกันทีค่ะคุณหมอ แค่ครั้งนี้ ค่ายากุก็บานเบอะแล้ว
ให้กุมาอีก 3 วัน กุยอมนอนซม หรือไม่ก็นอนตายคาห้องจะดีกว่า
หมอให้นู๋จ่ายค่ายาขนาดนี้ มันก็ไม่ต่างอะไรกับที่หนูตายหรอกค่ะ
เงินกุก็หมด หาเงินมา ก็จ่ายค่ายา เอาสิ หน้าหนาวเป็นอะไรที่กุไม่ได้ใช้เงินเลย
เงินน้อย ก็เสือกไม่ได้ใช้ ดันได้มาแดกยาแทนข้าว มันคุ้มมั้ยเนี่ย ?
นี่ขนาดกุเห็นซองยาว่ามีพาราเซตามอลแล้วนะ
กุยังบอกอีน้องนั่นเลยว่า
" เอ่อ พาราฯ ที่ห้องพี่มีเพียบเลยค่ะ ไม่ต้องก็ได้ "
กุก็คิดว่าจะลดให้กุบ้าง เพราะค่ายาไม่น่าจะแพงห่าไรขนาดนี้
" พี่ไม่เอาพาราฯ ใช่มั้ยคะ ? "
อีน้องคนนั้นยังคงถามกุซ้ำอีกรอบ
อาจเป็นเพราะเมื่อกี๊ไม่ชัวร์เพราะน้องมีขี้หูเยอะไป ทำให้ไม่ค่อยได้ยิน
ไม่เป็นไร กุให้อภัย
กุก็เลยยิ้มหวาน ๆ ( คิดว่าหวานนะ เอ๊ะ รึเปล่า ??? ) ให้อีน้องไป
แล้วก็รีบพูดโดยมิกลัวลิ้นจะพันกัน
เพราะกลัวเสียเงิน พูดอย่างเต็มภาคภูมิและมั่นใจว่า
" ไม่ค่ะ บ้านพี่มีเป็นขวด ๆ เลยค่ะ ซื้อเก็บไว้ตลอด "
" ทั้งหมด 590 บาท ค่ะ "
อีเย็ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
นี่แหละ ทำให้กุถึงกับหน้าชา เยี่ยงโดนตีนเหยียบหน้ากันเลยทีเดียว
อืม นี่กุไม่เอาพาราฯ นะคะเนี่ย ยังเก็บขนาดนี้
ถ้ากุเอาพาราฯ ด้วย กุไม่หมดเป็นพันเลยเหรอคะ
เมื่อได้ยามาแล้ว กุจึงคิดต่ออีกว่า ถ้าคราวนี้กุยังไม่หาย
กุก็ไม่มาตรวจซ้ำเป็นแน่ ไม่มีเงิน
พ่อแม่กุก็คงเป็นห่วง ถ้ากุไม่มีเงิน ก็คงโทรหาพ่อแม่ให้อุปถัมภ์กุได้บ้าง
แต่กุไม่เอาแล้ว คิดว่าเลี้ยงไข้กุเปล่าว้า
เริ่มจะไม่แน่ใจ
แต่ไม่เป็นไร กุก็ยังคงดูแลตัวเองอยู่
( แต่ยังรับสมัครคนดูแลนะ เผื่อกุไม่ว่างดูแลตัวเองน่ะ งิงิ )
อาการของกุตอนนี้ ก็ทรงตัว อาจตายพรุ่งนี้ มะรืนนี้ ก็ไม่ทราบได้
แต่ไม่เป็นไร กุก็ทำประโยชน์เพื่อสาธารณะมามากแล้ว
( แต่ก็กลัวตายง่ะ แง้ ๆ )
เอาวะ อย่างไรก็ดี กุก็จะพักผ่อนเยอะ ๆ
เพื่อคุณพ่อคุณแม่ และผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน ของกุ
จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงมาก ( จริง ๆ กุชอบมากเลยที่มีคนห่วง ฮ่า ๆ ๆ )
ขอให้ทุกท่านเป็นกำลังใจให้กุฟันฝ่าอีเหี้ยไข้จังไร นี่ไปให้ได้นะคะ
กุจะอดทนต่อไป จะจามจะไอ มึงก็มาเลย
กุเตรียมพร้อม ถ้าแม่งจะตายจริง ๆ คงโทรเรียกเพื่อนให้มาช่วย
เพื่อนกุเคยเข้ามาเยี่ยมครั้งนึง แล้วพูดขึ้นมาอย่างอารมณ์ดีว่า
" วัดพร้อม เมรุพร้อม เหลือแต่ศพมึง "
รักกุมากเหลือเกิน อีเพื่อนเหี้ย
กุขอขอบใจ อย่างน้อย ถึงศพกุยังไม่พร้อม เค้าก็เผาคนอื่นก่อนได้ กุไม่รีบ
กลัวโดนเผาแล้วร้อน กลัวไม่เหลือใคร ไม่อยากอยู่คนเดียว
เอาล่ะ ได้เวลาพักผ่อนกุแระ จริง ๆ เลยเวลานานแล้ว
... ง่วงนอน ไม่รีบนอน เด๊วไม่หายไข้ ต้องทำตัวเป็นคุณหนูอนามัยซะหน่อย ...
แต่แหม ... ไม่ค่อยได้อัพบล็อกที่รักของกุมาแสนนานแล้ว
ถ้าหากมีหยากไย่ขึ้นได้ ก็คงขึ้นจนกลายเป็นบล็อกแห่งตำนานแล้วกระมัง
ขอให้บล็อกยังอยู่คู่ชาติไทย เอย ( เอย ทำไม ? ไม่ได้เขียนกลอน เอ๊ะ กุก็บ้า )
ภาษาเหนือวันละคำวันนี้ คำว่า ซะป๊ะ อ่านว่า ซะ - ป๊ะ แปลว่า มากมาย , มีเพียบ , เยอะแยะ
แต่งประโยค วันนี้ไปเดินแอ่วตี้กาดสวนแก้ว มีของลดราคาซะป๊ะ เช่น เตี่ยวใน เสื้อใน
แปลอีกทีว่ะ วันนี้ไปเดินเที่ยวที่กาดสวนแก้วมา มีแต่ของลดราคาเพียบเลย
เช่น กางเกงใน เสื้อใน
บ๊าย ... บาย
นู๋บลิว เซเลอร์มูน ก๋ากั่น
ป.ล รักส้วมของกุเหมือนเดิม และจะไม่หมดไปจากเดิม
ถ้ากุไม่อัลไซเมอร์ซะก่อนอะนะ
5 ความคิดเห็น:
ตามมาอ่านอีกครั้งครับ
อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ แบบนี่ไม่ดีเลยนะ
เชื่อเลย....นี่มันเป็นการไปหาหมอธรรมดาที่ไม่ธรรมดาจริง
ๆ มีเรื่องอะไรก็เข้ามาอัพอีกนะครับ การได้อ่านเรื่องของคุณเป็นอะไรที่ดี
คลายเครียดได้เยอะเลย
แล้วจะติดตามผลงานนะครับ 555555
เอ่อ ขอบคุณเจ้า
ที่กรุณาเข้ามาอ่าน แล้วช่วยกดชักโครกให้ด้วย
ถือว่าเป็นการเข้าส้วมที่มีมารยาทดีมากค่ะ
ยินดีจ้าดง่าว เอ๊ย ยินดีจ้าดนักเจ้า
ป.ล ระวังอ่านไปแล้วเครียดตามกุ เอ๊ย นู๋นะคะ
อ่านไรก็อ่านค่ะ อ่านไปหลายๆหน้าก็ไม่ว่า
ยังดีกว่า เข้ามาอ่านบล็อกตัวเอง บ่นคนเดียว อ่านคนเดียว งิงิ
5555
ไม่ต้องขอบคง ขอบคุณอะไรเป็นพิธีการหรอกครับ
จริงแล้วผมก็อายุเท่ากับคุณนั้นแหละ (25?)
ผมได้อ่านเรื่องเก่า ๆ บางเรื่องแล้ว
พบว่ามันบังเอิญมาก ๆ เลยที่เรียนแล้วดันได้เกรดเฉลี่ยสะสมเท่ากันถ้าจำไม่ผิด
ผมก็ได้ 2.94 หรือ 2.96 นี่แหละ.
...แล้วเรื่องเปลี่ยนชุดครุยถ้าเจอ Blog คุณเร็วกว่านี่
ผมจะบอกให้เองว่ามันไม่เปลี่ยนหรอกราชภัฏที่กรุงเทพเค้ารับปริญญาก่่อน
...เพราะว่าผมก็จบราชภัฎเหมือนกัน!!!
แล้วจะอ่านเรื่องเก่า ๆ ไปเรื่อย ๆ นะ....
เอ้ย โทรศัพท์หายวะ เบอร์อยู่ใน เครื่อง ไม่ได้เมมใน ซิม บอกเบอร์มาใหม่ด่วน ใช้เบอร์เดิมอยู่แต่เบอร์เอ็งหายวะ
สวัสดีครับ
พอดีเข้าไปเสือกในบล็อกเพื่อนอยู่ดีๆ
แล้วนิ้วชี้มันก็พาตัวเอง
หลุดมาอยู่ในส้วมสีชมพูนี้
อ่านแล้วเพลิดเพลินเจริญตูด เอ้ย!ใจ ดีครับ
ไม่เคยเสือกอ่านบล็อกใครแล้วมันส์ขนาดนี้
อ่านแล้วสนุกจนลืมไปว่ากำลังอ่านบล็อกอยู่
ส้วมนี้ฝารองนั้งต้องติดกระดาษทรายอยู่แน่ๆ
ชอบครับๆ
แสดงความคิดเห็น