วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2547

ไปไกล ... ตีน!

เมื่อวันพุธ หลังจากแด่กมู๋ทะกันกับเพื่อนๆ
(มีคนเลี้ยงอิ่มจังตังค์อยู่ครบจริงๆ)
กุก็กลับมาพิมพ์งาน วิชาโท จิตวิทยา พิมพ์ไปพิมพ์มา นั่งเล่นเน็ทไปด้วย
ชิบหาย!
กุนึกขึ้นได้ เวรแล้ว นี่มันดึกแล้วนี่หว่า พรุ่งนี้นัดเพื่อนเช้าสุดตีน ด้วย
ทำไงดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คิดแล้วคิดอีก
ทำไรไม่ได้ สุดท้าย ... แม่ง ก็ต้องนั่งพิมพ์ จนรากแก้วงอกติดเก้าอี้
จนตี 3 กุขึ้นนอนแม่งเป็นไข้ ทั้งไอ ทั้งเจ็บคอ ทั้งหายใจไม่ออก
ทั้งจาม (ขี้มูกไหลเป็นเต้าส่วนแลดูน่ารับประทานจริงๆ)
แต่ขอโทษ กุหยิ่ง! ไม่แด่กยา โฮะๆ คิดว่า พรุ่งนี้กุก็ไปเรียนด๊ายย สบ๊าย!
อิห่า ที่ไหนได้ เช้ามา แรงควายที่เคยมี เสือกหายไป กลายเป็นนางเอก
ไม่สู้คน ไม่มีแรงทำเหี้ยไรเรย ต้องโทรบอกเพื่อน เห้ยกุไปไม่ได้นะมึง
ไข้แด่กค่ะ มึง กุขอโทษ มาเอางานที่กุพิมพ์ให้มึงด้วยแล้วกัน

... จากนั้น ...
กุก็ น็อค!
..........................................
ตอนเย็น
....................................................................

ย่ากุ : บลิว ใครมาหน้าบ้าน ออกไปดูดิ๊
กุ : อ้าว พี่โอ๊ต มาได้ไงเนี่ย มาๆ เข้าบ้านมาก่อน มีไรป่าวน่ะ มาซะเย็นๆค่ำๆ แบบนี้
พี่โอ๊ต : อ่อ บลิว วันนี้พี่มาหาเรานั่นแหละ คือพี่จะมาเสนอ
เกี่ยวกับเรื่อง ที่พี่ทำงานอยู่ บริษัท กิฟฟารีน นั่นแหละ
ค + ว + ย
ค่ะ
กุว่าแล้วไงคะ ว่าต้องมาชวนกุทำงาน นี้
เมื่อก่อน เพื่อนกุก็คนนึงแร้ว แม่งชวนคนนั้นคนนี้ มาบ้านกุ
เพื่อมาพูดเกี่ยวกับ แอมเวย์ กุก็ปฏิเสธไปแล้ว ตั้งหลายครั้ง แม่งก็ตื๊อ
กำลังขี้อยู่อย่างสบายใจ ชิบหาย ... พาใครไม่รู้เข้ามารอกุในบ้าน
อิเหี้ย ... ขี้ไม่สบายเรยมึง! พอรู้ว่ามีคนรอเนี่ย
... ขี้เกรงใจ ...

" มาๆ บลิว พี่จะพูดเกี่ยวกับแผนการทำงานพวกนี้ให้บลิวฟังนะ"
พี่โอ๊ต : บลิวเคยฝันไม๊ อยากมีบ้าน อยากมีรถ อยากไปต่างประเทศ?
กุ : อืมๆ (เข้าข่ายเหมือนแอมเวย์เด๊ะ)
พี่โอ๊ต : อืม ... ทุกคนล้วนแต่มีความฝันนะแต่อยากให้มันเป็นจริงไม๊
กุ : อืม แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอกพี่ (เพราะกุเคยฟังมาแร้วโว้ย!)
พี่โอ๊ต : บลิว มันเป็นไปได้สิ นู๋อย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้
เนี่ยเด๊วพี่พูดให้ฟัง ว่าแผนทั้งหมดเป็นยังไง
แร้วพี่โอ๊ต ก็พูดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หูดับตับไหม้
ส่วนกุก็นั่ง อืมๆ ๆ ๆ ๆ
ไอ่หัวน่ะ ไม่ได้คิดตามที่พี่โอ๊ตมันพูดเกี่ยวกับแผนห่าดอกไรนั่นหรอก
เพราะกุเป็นไข้ ใครแม่งจะไปอยากใช้สมองคิดตามวะ
ถามไรกุก็ อืมๆ ฮื๊ออ ไม่ๆ อ่อๆ ค่ะๆๆ อืมๆๆ แร้วไงต่อ อ่อๆ เออๆ
ใจกุนี่ เมื่อไหร่มึงจะกลับๆๆๆ ทวนอยู่ในใจเป็นร้อยๆรอบ
เพราะกุก็จะตายห่าเอา แร้วเสือกแม่ง แผนเหี้ยนั่น
มันอะไรนักหนา ?

"บลิวคิดดูสิ เงินเราจะได้เป็นกอบเป็นกำ ดูตัวอย่างนะ
อย่างพี่คนนี้" **** แร้วพี่โอ๊ตก็ชี้ให้ดูภาพผู้ชายคนนึงกะลัง
ยืนเก๊กท่า หน้าตากวนสร้นตรีน! ด้านหลังมีรถเก๋งคันงามสีดำ
ด้านหลังรถเก๋งก็มีบ้านหลังใหญ่ๆ หลังนึง ****
"บลิวเห็นพี่คนนี้ไม๊ เค้าเคยเป็นคนขายขนมพวกทองหยิบ
ทองหยอด (ดอกทองไรนั่น ช่างแม่ง กุจำมะได้แระ)
แต่พี่เค้ารู้จักกิฟฟารีน ดูภาพนี้สิ **** พี่โอ๊ตชี้ไปที่รถเก่าๆคันนึง
คาดว่าจะเป็นรถที่ใช้ขายขนม ที่เราเคยเห็นกันบ่อยๆตอนกลางคืน
(ถ้าใครไม่เคยเห็น แสดงว่ามึงบ้านนอก รู้ตัวไว้ด้วยนะ)
มีไอ่หน้าสร้นตรีนคนเดิม ยิ้มอย่างสบายใจ ****
กุไม่เห็นหน้าตาจะทุกข์เหี้ยไรเรย กะการขายขนม
แร้วพี่โอ๊ต แม่งก็พูดๆๆๆๆๆๆ เอ้า มึงพูดเข้าปาย
ตากุก็จะปิดลง ปิดลง ทั้งง่วง ทั้งตัวร้อน
พูดไปพูดมา พี่โอ๊ต มัดมือชกกุ ด้วยการยื่นใบสมัครกิฟฟารีน
ให้กุ กุก็รับมา ด้วยความ งงๆ ง่าวๆ พี่โอ๊ตบอกว่า
"บลิวกรอกซะนะ แร้วเด๊วพี่จะมาเอา"
กุก็บอกพี่โอ๊ตว่า
"โอ้ย...ไม่เอาอ่ะพี่โอ๊ต บลิวยังไม่อยากทำ"
"บลิว มันไม่ใช่การขายสินค้านะ มันคือแค่การแนะนำ
เราไม่ต้องไปเดินขาย เพียงแต่เราใช้ผลิตภัณฑ์
แร้วเด๊ว คนอื่นเค้าเห็นว่า เราใช้ดี เค้าจะถามเราเอง
ไม่ต้องเหนื่อยเรย อีกอย่างนะบลิว ~~~~~~~~~~~~~ ฯลฯ

เราได้เงินเป็นหมื่นๆ แสนๆ !!!
แร้วบลิวดูหน้านี้นะ (พลิกอีกหน้านึง พรึ่บพรั่บๆ)
เนี่ยนะ เรามีแบ่งกันไว้เป็นขั้นๆ สำหรับคนที่ทำยอดได้สูงๆ
เท่าที่กุจำได้ก็จะมีขั้น จูปิเตอร์ เมอร์คิวรี ไรเนี่ยแหละ แร้วก็ ฯลฯ
ดีนะ ไม่มี เซเลอร์มูน ของกุด้วย อิวอก เยะเป็ด!
-----------------------------
กุจำไม่ได้ว่าพี่โอ๊ต สาธยายไปกี่ชั่วโมง
กุจำได้แค่ว่าในหัวกุนึกถึง ที่นอน ๆๆๆๆ ยา ๆๆๆๆๆ หลับ ๆๆๆๆ แค่นี้ ...
เหมือนสวรรค์มาโปรด พ่อกะแม่กุกลับบ้านมาพอดี
พี่โอ๊ต ก็เรยบอกว่า เด๊ววันหลังพี่มาใหม่นะ จะชวนให้พ่อแม่บลิวทำด้วย
กรี๊ดดดดดด ดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดด
นี่ชวนกุยังไม่พอใช่ไม๊? จะเอาพ่อแม่กุไปด้วยเรอะ!
แร้วพี่โอ๊ต ก็กลับไป กุก็เม้าท์ให้พ่อแม่ฟัง เค้าก็บอกว่า
"อืมๆ ฟังไปเหอะ แต่ไม่ต้องทำ มันเชื่อไม่ได้อยู่แล้ว"
เหตุการณ์แบบนี้ ทำให้กุนึกถึง เพื่อนบางคน ที่ชอบชักชวน
ให้กุกะเพื่อนๆ ในกลุ่ม ไปเข้าศาสนา ของเค้าด้วย
กุก็ปฏิเสธบ้าง ไปร่วมกิจกรรมบ้าง
ไม่เกรงใจกุบ้างเล๊ย จนกุต้องไปกะเค้า
เพราะกุเกรงใจที่เค้าชวนกุบ่อยเหลือเกิน
สมควรไม๊?
- -!

กุไม่ได้ลบหลู่ศาสนา หรือ บริษัทของใครนะ
แต่การทำแบบนี้ ชักชวนให้เข้าโน่นเข้านี่ ไม่ว่า
จะเป็นอะไรก็ตามที่มันเป็นเครือข่ายแด่กต่อๆกันแบบเนี๊ยะ
มันทำให้กุเบื่อ ... กุเซ็ง กุเครียด ...
กุไม่ชอบโว้ยยยยยยยยยยยยยย อิเหี้ยยยยยยยยยยย
... ฉะนั้น ...
------------------------------------------------
ไปไกล ... ตีน!
***************************

ภาษาเหนือวันละคำวันนี้คำว่า ง่าว อ่านว่า ง่าว แปลว่า โง่ งี่เง่า stupid
แต่งประโยค ไอ่วอกนี่มันหยังมาง่าแต้ง่าวว่า สอนอะหยังกะบ่ฮู่เรื่องซักอย่าง
แปลอีกทีว่ะ ไอ่ห่านี่ทำไมมันโง่ชิบหาย สอนเหี้ยไรก็ไม่รู้เรื่องซักอย่าง

บ๊าย...บาย
นู๋บลิว เซเลอร์มูน ก๋ากั่น

ป.ล ใบสมัครที่พี่โอ๊ตให้ไว้ กุก็ไม่ได้กรอกสัดม๋าไรเรยซักอย่าง ปล่อยแม่ง!
โอ้ว...พี่โอ๊ตโทรมาพอดี จะให้กุไปนั่งฟังการบรรยายที่ไหนมะรุ้ววว
เกี่ยวกับสรรพคุณของกิฟฟารีน อิสันขวาน! กุไม่ไปว้อย
กุก็อ้างนู่นอ้างนี่ หุ้ย ... เบื่อสาดดดดดด

วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2547

หมอ...นู๋เสียว!

เมื่อคืนหลังจากบ่นกะเพื่อนๆที่แร่ดออนไลน์ด้วยกันว่า
กุเสียวฟัน! เสร็จแล้ว กุก็กะว่า เออวันนี้กุนอนเร็วหน่อยดีกว่า
พรุ่งนี้กุจะได้ตื่นแต่เช้ารีบไปเรียนให้ตรงเวลา
บอกแม่ตั้งแต่ตอนเย็นว่า
แม่เจ้า ซื่ออีโมฟอร์มมาฮื่อโตยเน่อ เสียวฟัน แอ่
(แม่จ๋า ซื้ออีโมฟอร์มมาให้ด้วยนะ เสียวฟันค่า)
ทั้งๆที่ทุกๆวันที่ผ่านมา อาการเสียวฟันก็อยู่คู่กับกุมาตลอดแต่ไม่ได้ปวดเหี้ยไรมาก
แต่พอเมื่อวานที่ฝากแม่ซื้ออีโมฟอร์มมา แร้วกุก็ใช้ แร้วกุก็ขึ้นนอน
อิห่า...นอนไปได้ซักพักพอเคลิ้มๆ เสือกปวดฟัน อย่างแรง! สุดยอด
กุปวดเหี้ยๆ นอนบิดไปบิดมา ร้องห่มร้องไห้ ทั้งคืน
เหมือนอีบ้าเรยกุ (ตอนไม่เป็นไรก็เหมือนอยู่แล้วนะนี่กุ)

ตอนแรกคิดว่าจะหายที่ไหนได้
อิดอก ... กุไม่ได้นอนแม่งเลย ยันเช้า ช่วงตี 4
 โทรหาเพื่อนแบบไม่เกรงใจเหี้ยไรมันเลย
ถามเพื่อนว่าทำไงดีๆๆ กุปวดฟันๆๆ กุยังไม่ได้นอนเลยทั้งคืนทำไงดีๆ
เพื่อนกุบอกว่า เห้ย มึงอมเกลือเด้ ไม่ต้องแด่กน้ำ อมเกลือไปก่อน
แร้วตอนเช้าค่อยไปหาหมอ เอ้า กุเชื่อเพื่อนค่ะ กุก็ไปเอาเกลือ
ที่อยู่ในกระโปก เอ้ย! กระปุก มาอมๆๆ สาดดดดดดดดเยะ แสบเหงือกโคตร
แต่เอาวะ กุต้องทนให้ได้ พรุ่งนี้เช้ากุจะไปหาหมอ
พอเช้าปุ๊บ กุเสือกหลับไปตอนไหนไม่รู้ววว อาการปวดห่าวอกนี่ก็ไม่มีแระ
เออดีแฮะ ดีจริงๆเรยกุ เมื่อคืนไม่ได้หลับเรย เสือกมาหลับได้ตอนเช้า
เพื่อนกุโทรมา เห้ยบลิวมึงเป็นไงบ้าง คุยกันไปได้ซักพัก เพื่อนบอกว่าเออไม่ต้องมาเรียน
วันนี้อาจารย์ไม่อยู่ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด โชคดีเยะเป็ดเรยว้อยไม่ต้องเขียนใบลา
ประมาณ10โมงกว่า แม่พาไปสาธารณสุข แต่มันปิดบริการแล้ว
บอกว่า "ตอนเที่ยงครึ่งจะเปิดอีกรอบนึงนะคะ" ชิบหาย คนก็เยอะ
แม่บอกว่าไม่ต้องรอหรอก แม่รีบไปเผาศพที่คอนหวัน ไปคลินิกดีกว่า
ว่าแล้ว แม่ลูกคู่ดูโอก็พากันไปคลินิก

หมอตรวจๆเช็คๆๆ ซักพัก ให้กุไปนอนที่เตียง
บรรยากาศภายในห้อง ทำฟัน!
หมอ : อาการเป็นไงเหรอคับ เสียวฟันเหรอคับ อืมๆๆ เด๊วหมอตรวจให้นะคับ
อ้าปากกว้างๆคับ อ้าๆ ใช่คับดีมาก อ้ากว้างๆ
กุ : อ้า อือ อา โอวว งื่อออ อื้มมมมมมม
~ คร่อกๆๆๆ แคว่กๆๆๆ ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ~
หมอ : นั่นแหละคับ อ้ากว้างๆ ใช่คับใช่ อืมๆ กว้างๆนะคับ
กุ : งื่ออ อุ๊ย! อ้า... ฮื่ออออออออออออ
หมอ : เสียวเหรอคับ เด๊วก็เสร็จแล้วนะ อ้ากว้างๆคับ
กุ : หมอคะ มันเสียวอ่ะ อื๊ออออออ งื่ออออ โอยยยยย
~ ตื๊ดดดด คร่อกๆๆๆๆๆ ติ๊ดๆๆๆๆๆๆ ฟู่วๆๆๆๆๆๆๆ คร่อกๆๆๆ ~

หมอ : เอ้าอีกแป๊บเดียวนะคับ ใกล้เสร็จแล้ว
เวลาผ่านไป เป็นชั่วโมง ไอ่ปากที่อ้ากว้างๆเพื่อคุณหมอนั่น ก็เริ่มจาค้างแระ

... และแล้ว ...
"เอ้าเสร็จแล้วนะคับ บ้วนปากได้เลยนะคับ แล้วก็ออกไปรอหมอข้างนอกนะ"
ต่อจากนั้น หมอก็สาธยายว่าได้ทำมิดีมิร้าย กะช่องปากของกุไว้ยังไงบ้าง
นี่นะครับ หมอจะให้ยาไปกินนะครับ
อันนี้ทานหลังอาหาร เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน
ส่วนอันนี้ก็ทานหลังอาหาร เช้า กลางวัน เย็น นะคับ
อ่า ... ส่วนค่ารักษาทั้งหมดก็
ค่าอุดฟันซี่ใหญ่ ใหญ่มากนะคับ หมอคิดเป็น เงิน ...
ค่าอุดฟันซี่เล็กเหี้ยนี่ หมอคิดเป็น เงิน ...
ค่าขูดหินปูนฟลูออไรด์ห่าเหวนั่น หมอคิดเป็น เงิน ...
ค่ายา 2 ซอง นี้ หมอคิดเป็น เงิน ...

เบ็ดเสร็จที่แม่กุต้องจ่ายเงินคือ เก้าร้อยกว่าบาท ไอ่กว่าบาทห่าดอกนี่
กุขอไม่พูด พูดแล้วจะยิ่งปวดใจหนักเข้าไปอีก (ไม่ใช่ไรหรอก กุจำไม่ได้แระ)
ทั้งปวดฟัน ปวดใจ ชิบหาย เหยียบพันเรยกุ
"เออ ... น้องคับ ไม่ทราบว่าใช้อะไรบ้วนปากอยู่รึป่าว"
"อ่อ ใช้ค่ะ เมื่อวานซื้ออีโมฟอร์มมาบ้วนปาก แต่ใช้แล้วก็ปวดฟันมากเลย"
"ท่าทางจะแพ้นะคับเนี่ย ถ้ายังไง ลอง Colgate Total Plax Fresh ดูสิคับ
มันจะทำให้ช่องปากสะอาด ไม่เสียวฟัน อม 2 นาที และ ฯลฯ"
ห่ามากค่ะ คุณหมอ หลอกขาย น้ำยาบ้วนปากกุ
กุแระแม่ก็ต้องซื้อ เพราะกุใช้อีโมฟอร์ม แร้วแม่ง ห่วยแตก เหงือกพัง
ก็ต้องจำยอม

สร้นตรีน!
แค่มาให้หมอฟัน! เอ้ย ... แค่มาให้หมอรักษาฟันเนี่ย อะไรมากมายเนี่ยกุ
อิเหี้ย! ทำไมมันแพงอย่างนี้วะเนี่ย ก็ได้แต่คิดล่ะวะ
แม่บอกว่า ทำไงได้ ให้ไปรอที่นั่นก็นาน คนก็เยอะ
แค่นี้ก็ทำเพื่อลูกไม่ได้เชียวเหรอ
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด แม่ขรา รักแม่จริงๆนะคะเนี่ย
จรุ๊บๆๆๆๆ

ในที่สุด กุก็พาเหงือกอันบอบช้ำ กลับบ้านมา ชอกช้ำระกำทรวงที่สุด
แด่กไรก็ปวดฟัน เสียวฟัน อยู่นั่น รำคาญจริงว้อยยยยยยยยยยย
เมื่อไหร่จะหายวะกุ๊ - -!

ภาษาเหนือวันละคำวันนี้ คำว่า ไค่ลั๊บ อ่านว่า ไค่ - ลั๊บ แปลว่า ง่วงนอน
แต่งประโยค ตะคืนนี่บ่ได้ลั๊บได้นอนเจ๊บเขี้ยวง่าว วันนี่กะเลย ไค่ลั๊บขนาด
แปลอีกทีว่ะ เมื่อคืนนี้แม่งไม่ได้นอนเหี้ยไรเรยปวดฟันชิบหาย วันนี้เรยง่วงนอนโคตร

บ๊าย...บาย
นู๋บลิว เซเลอร์มูน ก๋ากั่น

ป.ล กุคงแด่กเหี้ยไร มะค่อยได้ไปอีกนาน กุจะดีใจหรือเสียใจกันแน่วะเนี่ย
แง้ T_T อยากร้องไห้

วันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2547

เธอสวย

เสาร์ที่ 4 ธ.ค. 47
คณะกุมีกิจกรรมสานสัมพันธ์ฯ
ไปแต่เช้า ... รถมหาลัยก็ยังไม่มารับซักกะที
รอแล้ว ... รออีก รอจนรากแก้วกุจะงอกติดกะเก้าอี้
นัดน้องไว้ 7 โมงครึ่ง รถเหี้ยนี่ มาตอน เกือบ 9 โมงเช้า
ด้วยเหตุผลที่ว่า ... ลุงคนขับรถลืม! อิสาดดดดดดดดดดดดดด

กุอุตส่าห์ตื่นแต่เช้า ชิบหายยยยยย เสือกลืม เหตุผลดี ดีเหี้ยๆเรยมึง!
ไปถึง ก็มีพิธีเปิดโดยคณบดีของมหาลัยเจ้าภาพ
 แร้วก็มีการแสดงของมหาลัยกุ กับมหาลัยเจ้าภาพ
เริ่มแรกด้วยการแสดงของเจ้าภาพมาในเพลง dhoom dhoom ของ tata
มีกะเทย 2 คนออกมาเต้น พร้อมกับน้องผู้หญิงอีกคน


น้องผู้หญิงเป็นสาวลูกครึ่ง ตัวใหญ่ๆ ถึกๆ
เสียงตอแหลๆ แจ๋นๆ แปร๋นๆ
กุถามเพื่อนที่เป็นสโมฯ ฝั่งเจ้าภาพว่า "เห้ย น้องคนนี้ใครอ่ะ"
เพื่อนบอกกุว่า "อ่อน้องเอมมี่น่ะ น้องปี 2 เค้าจะดูแรงๆหน่อย
เพราะเค้าไปเรียนเมืองนอกมา ตอนแรกกุคิดว่า เป็นเด็ก AFS
ที่ไปเรียนแลกเปลี่ยนกับฝรั่ง มันแกว มะม่วง เหี้ยไรนั่นแหละ
แต่ไม่ใช่!

เชษฐ์บอกกุว่า น้องเค้าเป็นลูกครึ่ง โอ้วววว ไม่นะ อิห่านี่เนี่ยนะ
ลูกครึ่ง? เด็กลูกครึ่งในสายตากุจะต้องขาว สวย สูงโปร่ง น่ารัก
... แต่ ... อิเอมมี่ มันไม่ใช๊ ... กุไม่ได้ดูถูกคน แต่ดูท่าทางที่มันแสดงออก
โคตรตอแหล!!!!!!!
กุถามเชษฐ์ว่า "อ้าวแล้วพ่อหรือแม่เนี่ย เป็นฝรั่ง"
เชษฐ์บอกกุว่า "อ่อ พ่อเค้าเป็นฝรั่งน่ะ ส่วนแม่เค้าเป็นคนไทย เอ่อ...
แต่หน้าน้องเค้าอ่ะ จะออกไปทางแม่มากๆเลยล่ะ หน้าน้องเค้าเหมือนแม่"
ก๊ากกกกก ชิบหาย กุว่าแล้วไง ติดทางแม่เยอะไปหน่อยนี่เอง
เวลากุสั่งเชียร์อยู่ แม่งก็จะชอบเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วฟังพวกกุร้องเพลง
(มันเป็นพิธีกรภาคสนาม)
พอมันฟังว่าพวกกุร้องเพลงเหี้ยไรกัน มันก็ประกาศใส่ไมค์ เช่น
"อุ๊ยๆๆ ร้องบ้านทรายทองค่ะ"
"กรี๊ดๆๆ ไก่ย่างค่ะ"
ค่ะ
มึงจะบอกคณะมึงออกอากาศทำเหี้ยไรเนี่ย น้องกุร้องเพลงอยู่ดีๆเสียself เรยมึง!
ชิบหาย จะร้องเพลงเหี้ยไรทำไมต้องคอยมาสาระแนนัก
กุไม่เข้าใจว่า จะเสือกสร้นตรีนไรนักหนา กุรู้ว่าพิธีกรภาคสนามเป็นไง
แต่ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้ เหมือนกะว่า เออนะ ดูถูกว่าพวกกุเนี่ยนะ
ร้องเพลงกันไมได้เรื่องเรย ไม่ใหม่ ไม่เจ๋ง เหมือนของมัน เสียใจ กุเอามันส์!
กุไม่จำเป็นต้องร้องเพลงเจ๋งๆ ไพเราะเพราะพริ้ง เพราะกุต้องการ
ให้น้องกุมันได้ร้องเพลงเชียร์กีฬาที่กำลังแข่งอยู่บ้าง ก็เท่านั้น
เวลาเล่นแชร์บอล "น้องเอมมี่" เธอก็ลง ม.น ได้แต้มมากกว่าพวกกุ
ส่วนใหญ่ก็ฝีมือน้องเอมมี่ นั่นแหละ เพราะเธอ สวยถึกและบึกบึน
ตัวสูงหน่อย เพื่อนกุที่อยู่เอกคณิต ก็บอกกุว่า "เห้ยบลิวมึงไม่ลงบ้างเหรอวะ
ไปแข่งกะอิเสื้อส้ม" (อิเสื้อส้มคืออิเอมมี่)
กุบอกว่า "ไม่เอาล่ะ กุขอสั่งน้องข้างบนนี่ดีกว่า กุไม่อยากเทียบรัศมีคนสวย"
กุไม่ได้คิดดูถูกคนเรื่องสวยไม่สวย เพราะกุก็หน้าตาทุเรศเช่นกัน
เพียงแต่ว่า กุไม่ชอบที่ว่า ทำตัวแจ๋น ชอบมองคนอื่นแบบตอแหล
ขนาดกุไปนั่งกะพวกน้องๆ ปี 1 ของ ม.น น้องมันยังบอกเรยว่า
"พี่เอมมี่ เหรอ พวกนู๋ไม่ค่อยสนิทหรอกค่ะพี่ เพราะพี่เค้าไม่ค่อยยิ้มให้ใคร"
เหมือนว่า กุนี่นะ เด็กนอก เด็กลูกครึ่งนะมึ๊ง อย่าเข้ามาใกล้กุนะ
กุเด็กนอก ... แร้วไงวะ กุไม่เข้าใจ เด็กนอกนี่ กุต้องกราบเลยไม๊?
ไงมันก็คนเหมือนกันแหละวะ แต่ทำตัวดูถูกคนอื่น
คนนิสัยงี๊ รีบไปให้ไกลๆตีนกุเลยว่ะ กุโคตรเซ็ง -"-
พอการแข่งขันจบ น้องเอมมี่ดอกทองนี่ก็เดินเชิ่ดหน้า คอตรง
ออกจากสนาม ไปกะเพื่อนๆ กะเทย ที่เป็นเบ๊ มัน
(กุเดาเอา เห็นเดินตามตูดกันต้อยๆ ยังกะม๋าตามขี้)
จบงานพวกกุก็รอรถมารับ กุเอารถไปที่ ม.น กันเอง แต่ก็ยังกลับกันไม่ได้
เพราะน้องปี 1 ยังกลับไปหมด เนื่องจากรถมารับแค่คันเดียว
ส่วนอีกคัน ชิบหาย แม่งนานสัดๆ พวกน้องๆกุ
ก็เลยตีกลอง ร้องเพลง กัน ตามสันดานหน้าด้าน ที่พวกกุเสี้ยมสอนมา
เพื่อนๆที่ ม.น บอกว่า "น้องๆแกนี่ กล้าดีเนาะ ใช้ได้"
กุก็บอกว่า "เออ นึกไม่ออกเหมือนกันว่า ปี 1 มันยังขนาดนี้
พอขึ้นปี 3 เหมือนพวกชั้น ไม่รู้แม่งจะเป็นไง"
พาลทำให้นึกถึงตัวเองเหมือนกัน เพราะตอนปี 1 กุก็งี๊
พอปี 3 กุก็เป็นงี๊ แม่ง เหมือนส่องกระจกดูตัวเองเลยว่ะ ห่าเอ้ย!
เต้นแร้งเต้นกา กันอยู่นานมาก พวกที่เดินผ่านไปผ่านมา แม่งก็มอง
พวกเพื่อนๆ ม.น มันก็หัวเราะกัน แบบ ตลกที่น้องๆกุมันทั้งร้องทั้งเต้นไม่อายใคร
จนกุต้องตะโกนไปว่า "เห้ยน้องใจเย็น เก็บกดไรกันป่าวน่ะ"
พวกเพื่อนๆกุแม่งก็หัวเราะกัน ก๊าก เลย ช่างแม่งเหอะ
ในเมื่อมันไม่อาย แร้วกุจะอายทำไม ตัวมันยังไม่อาย เหอๆ
สุดท้ายรถมหาลัยก็มารับ พวกกุก็ส่งน้องขึ้นรถ
แล้วกุก็ลาเพื่อนๆ ม.น ที่ยืนส่งพวกกุ จนขี่รถ ออกจาก โดม
เสร็จสิ้นบริบูรณ์อีกหนึ่งงาน แม่งปวดเนื้อปวดตัว เต้นมันส์จัด
ไม่เต้นก็ไม่ได้ น้องร้องเพลงกันไม่ออก สาดม๋า
ลำบากกุอีก อิหัวขวด
ภาษาเหนือวันละคำ คำว่า ปั๊กกะตื่น อ่านว่า ปั๊ก - กะ - ตื่น แปลว่า ตำรา
แต่งประโยค ตุ๊ปี้คับ จ้วยเปิดปั๊กกะตื่นตั้งจื้อฮื่อลูกสาวผมจิ่มเต๊อะคับ
แปลอีกทีว่ะ หลวงพี่คับ ช่วยเปิดดูตำราตั้งชื่อให้ลูกสาวผมหน่อยเถอะคับ
ป.ล ขอบใจน้องเอมมี่ ที่ทำให้กุได้รู้ว่า เด็กลูกครึ่งใช่ว่า จะ ขาว สูง เซ็กส์ เสมอไป
ขอบใจที่ทำให้กุรู้ว่า เด็กนอกเอาขึ้นหิ้งบูชา ได้ด้วย
ระวังไว้เหอะมึง! จะโดนกุตบ ด้วย หางตา !! โฮะๆๆ
บ๊าย...บาย
นู๋บลิว เซเลอร์มูน ก๋ากั่น