วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2548

จากวันนั้น ... ถึงวันนี้ Vol.2

โรงเรียนกุมีกิจกรรมเยอะแยะมากมาย
เมื่อก่อนตอนที่เรียนๆอยู่ ถึงเวลามีการจัดกิจกรรม
กุก็อยู่ช่วยงานบ้าง หรือไม่ก็ โดดบ้าง แร้วแต่ความชั่วที่ติดอยู่ในกมลสันดาน
แต่แม่งเห้อะ มาอยู่ที่นี่ กุต้องมีหน้าที่จัดกิจกรรมด้วย คือรับหน้าที่
เป็นผู้จัดกิจกรรมในฐาน 1 ฐานเลย โอววว ววว วว สุดยอด
พูดง่ายๆก็คือ โดนฟาดหัวว่า "อิบลิว มึงต้องไปเป็นเจ้าของฐานนี้นะ
มึงรับผิดชอบคนเดียว!"
... ซะงั้น ...
โรงเรียนนี้แม่ง มีแต่คนใส่หน้ากากเข้าหากัน
(กุก็คิดว่าครูทุกโรงเรียนก็ใส่หน้ากากเข้าหากันอยู่แร้วมั้ง)
ใครทำงานเก่ง ทำงานดี มีความรับผิดชอบ เจ้าระเบียบกับงานเกินเหตุ
แม่งก็จะโดนวิถีประชาเหี้ยๆ จากบรรดาครูเหี้ยๆ เยะเป็ด!
ขนาดครูพี่เลี้ยงกุ เป็นหัวหน้าระดับอนุบาล ยังโดนคนอื่นหมั่นไส้
อิห่า ... แม่ง งานพวกมึงไม่เดิน แร้วเสือกมาหมั่นไส้คนอื่นเค้า กุล่ะอยากถีบยอดหน้า
แต่ทำไงได้ กุมันก็แค่นักศึกษาทดลองสอน จนๆ สวยก็ไม่สวย
ต้องทำท่านางเอก จะไปว่าใครเค้าได้ ได้แต่นิ่งเงียบไม่ไหวติง
ถุย!
อยากจะอ้วกตัวเองว่ะ
ที่โรงเรียนจัดให้ไปเที่ยว Dream World กัน กุไม่เกี่ยวกะเค้าหรอก
เพราะโซนอนุบาลไม่ได้เกี่ยวกับโซนประถมหรือมัธยม
แต่กุก็ขอเค้าไป ใครว่ากุหน้าด้านก็ช่างแม่งเด่ะ แต่ว่า โอกาสที่จะได้ไปกับเด็ก
มันก็ยาก สัดม๋า จริงๆ อยากมีส่วนร่วมในกิจกรรม
แต่สารภาพว่า
จริงๆแล้ว กุอยากไปเที๊ยว ไม่เกี่ยวกะจะรักเด็ก
ถึงขนาดอยากตามอะไรขนาดนั้นร๊อก
สุดท้ายกุก็ได้ไป ไปเล่นห่าไรนักหนา ก็ไม่รู้ จำได้ว่าเคยมาครั้งนึง สมัยกุสาวๆ
เด็กแม่งอยากเล่นเหี้ยไร ก็เล่นมะค่อยได้ เพราะกุได้คุมเด็กประถม
ตัวมันก็เล็กชิบหาย กุแม่งก็อยากจะเล่น กุเรยต้องฝากครูอีกคนนึงไว้
ส่วนตัวกุ ก็ไปแร่ด เล่นกันกะเพื่อน หุๆ เท่ห์จริงๆ ทิ้งเด็กหน้าตาเฉยมากเรยกุ
เหี้ยไม๊?
ไม่หรอก กุไม่เหี้ย กุแค่อยากเล่น ใครว่ากุเหี้ย ขอให้หน้าตาทุเรศ อับปรีย์
ตอนช่วงกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ-ยุวกาชาด
กุก็ต้องไปช่วยคุมฐานต่างๆ ก็สนุกดี แต่ก็เบื่อเป็นบางครั้ง
ส่วนกลางคืนกุต้องไปแต่งตัวเป็นผี ใส่ชุดยูกาตะ
ใครลาว นึกไม่ออก กุก็มีภาพประกอบให้ดู
ต้องขอโทษด้วย ที่อาจจะมีบางคนที่เสือกหลุดเข้ามาอ่านบล็อกของกุ
แล้วเผลอมาเห็นรูปที่สุดแสนจะทุเรศสายตาใครต่อใครไปหน่อย
แต่กุพยายามทำหน้าตาให้ดี และเอวคอดๆแล้ว
แต่มันไม่ได้จริงๆ พยายามทำเบลอๆไว้ เพื่อไม่ให้เป็นสิ่งที่ทำร้าย
อนาคตของคนอื่นอย่างสุดซึ้งแล้ว
กุล่ะเซ็ง -"-
และต้องขอโทษพวกหัวญี่ปุ่นทั้งหลายด้วยที่อาจจะคิดว่า
กุใส่ชุดยูกาตะมั่วๆ
เพราะกุใส่แบบมั่วๆจริงๆ คิดว่า คงไม่มีใครดูออก
กุเป็นผี นะ คงไม่มีใครมาเสือกจับผิด เห้ยๆ ผีแม่งใส่ชุดผิดว่ะ
ไม่ใช่แบบนี้ซักหน่อย ต้องอย่างนั้นอย่างนี้
ไม่มี๊ ... ไม่จำเป็น ตอนกลางคืนมืดๆ ใครมาติ กุสิ
กุจะตบกะโหลกให้!
แต่กุก็ไม่ได้แต่งหน้าสร้นตรีนไรให้น่ากลัวหรอก
กุก็แต่งหน้า แบบที่กุเคยแต่ง ธรรมดาๆ (แต่ตอนที่ถ่ายรูปยังไม่ได้แต่งหน้า)
รับประกันความหลอน เพราะระหว่างที่กุรอเด็กเดินมา กุไปส่องกระจกแล้ว
น่ากลัวชิบหาย อิห่า เดินทางกลางคืนไม่ต้องกลัวใครดักฉุดเรยกุ
เด็กแม่งก็กลัวบ้าง ไม่กลัวบ้าง
บางคนแม่งกระโดดกอดกุอ่ะ ไอ่เหี้ยยยยยยยยยยย กุก็ตกใจเด่ะ
ร้องซะเสียงหลง
"พี่จอย ช่วยบลิวด๊วยยยยย เด็กมานก๊อดดดด อ๊ากก
พี่จ๊อยยยย ช่วยด๊วยยยย ยยยยยยยย ยยยยยย"
(เริ่มร้องไม่เป็นภาษาคน) เสียงดังมาก

โดนพวกครูเค้าแซวกันใหญ่ว่า
"เห้ย อะไรวะ แต่งตัวเป็นผีหลอกเด็ก ดันโดนเด็กกระโดดกอดเนี่ยนะแก"
อายก็อาย ไม่คิดว่าเด็กมันจะเปลี่ยว ขนาดนี้นี่หว่า

เห้อะ

ภาษาเหนือวันละคำวันนี้คำว่า กะเบ้อ อ่านว่า กะ - เบ้อ แปลว่า ผีเสื้อ
แต่งประโยค วันนี่เฮาปากั๋นไปถ่ายฮูปกะเบ้องามๆกั๋นดีกว่า
แปลอีกทีว่ะ วันนี้เราพากันไปถ่ายรูปผีเสื้อสวยๆกันดีกว่า

บ๊าย...บาย
นู๋บลิว เซเลอร์มูน ก๋ากั่น

ป.ล กุบอกแล้ว อย่ามาเอาเหี้ยไรกะกุมาก ชีวิตวันๆกุก็น่าเบื่อเช่นนี้แหละ
ไอ่สราดดดดดดด

วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2548

จากวันนั้น ... ถึงวันนี้ Vol.1

กุอยู่ในช่วงทดลองสอน 
กุอยู่ที่นี่ กุเคยคิดเล่นๆเหมือนกันว่า
 ห่าเอ้ย ถ้าให้กุเลือก ว่า
จะหูหนวก หรือ ตาบอด กุจะเลือกเหี้ยไรดีวะเนี่ย
คิดจนปวดกบาล เรยด่าตัวกุเองว่า มึงจะเลือกทำเหี้ยไรวะบลิว
ตอนนี้มึงครบ 32 นะโว้ย เออจริงของกุ
เวลาคิดน้อยใจในรูปลักษณ์ ที่โคตรจะอับปรีย์ของตัวเอง
กุมาเห็นเด็กหูหนวก ทำให้กุคิดได้ว่า ดีแล้วถึงกุจะอุบาทว์
หน้าเหี้ย ขนาดไหน แต่กุยังได้ยินเสียง กุยังฟังเพลงได้
แค่นี้ก็ทำให้กุสบายใจ ดีใจขึ้นมา
 แต่กุก็สงสารเด็กๆว่ะแม่ง
เวลาฟังเพลง หรือเวลาที่กุได้ยินเสียงคุย เด็กก็เฉยๆ ไม่ได้ยิน
จะเรียกกันที กุต้องเดินเข้าไปหา สะกิดๆ กว่าเด็กจะรู้เรื่อง แม่งก็นาน
ไม่เหมือนคนปกติ ที่แค่เสียงก็ได้ยินแล้ว ไม่ต้องเดินตามไปสะกิดให้เมื่อยตีน
ตอนแรกกุหลับสบาย เข้าห้องน้ำเองคนเดียวได้
อยู่ๆไปไม่ถึงอาทิตย์ เพื่อนกุเผลอหลุดปากมาว่า
อ่อ ... ห้องน้ำนี่น่ะเหรอ ที่เด็กผูกคอตายอ่ะ
อ้าว อิสาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
มึงพูดทำไม๊ กุไม่รู้เรื่องอย่างเดิมน่ะดีแร้ววว พูดให้กุระแวงทำไมเนี่ย
ห่าเอ้ย นับจากวันนั้น กุเรยไม่กล้าเข้าห้องน้ำคนเดียว
หรือซักผ้าคนเดียว ตากผ้าคนเดียว
ชิบหาย คิดดูเสะ เด็กผูกคอตายในห้องน้ำนะโว้ย
บรรยากาศหอหญิงแม่งก็วังเวงจะตายห่า
ต้องให้เพื่อนอยู่ด้วยตลอด เวลาจะนอน กุแม่งก็นอนคลุมโปง
ปัญญาอ่อนมาก เป็นถึงครู เสือกกลัวผี
อายเด็กมาก แม่งมันล้อกุ ว่าระวังผีมาหลอกตอนกลางคืนนะ
พ่อมึงตาย! อิเด็กเวร กุคิดนะมึงไม่ใช่ว่ากุไม่คิด

เด็กแม่งมันชอบอะไรที่ท้าทายว่ะ มันไม่กลัวผีกันเรย
ขนาดเพึ่งตายไปนะ ยังไม่ถึง 100 วัน ซะด้วยซ้ำ
เด็กที่เจอศพคนแรก เป็นเด็ก ป. 1 กุเห็นแม่งยังหลับปุ๋ย
ไม่มีทีท่าจะกลัวอะไรซักอย่าง
กุก็ทำเป็นแก้ตัวไปว่า  ได้ยินเสียง ก็ทึกทักคิดไปเอง ไรเงี๊ยะ
ความจริงตัวกุ ขี้กลัว และก็คิดไปเองท้างน้าน
อิห่าเอ้ย แร้วทำเป็นบอกเด็กไปงั้นแหละ แก้ตัวชัดๆ
คนดีชอบแก้ไข คนอะไรชอบแก้ตัว - -!

อยู่ที่นี่ แม่ง แด่กข้าวครบ 3 มื้อ เป็นเวลาด้วย
น้ำหนักกุขึ้นพรวด มา 4-5 โล
ไหนจะขนมที่ซื้อมาตุนกันไว้ อีกล่ะ จะไม่ให้กุซื้อมาตุนได้ไง
จะเดินไปตลาดสวนพลู แม่งก็ไกล กลัวพวกขี้ยาก็กลัว
ว่ากันว่า แถวนี้คือย่านไฮโซ ย่านคนทำงาน
ห่าลาก จะซื้อของแด่กแต่ละที มันทำไมยากเย็นจังวะ
กุเรยต้องซื้อของมาตุนไว้ กุทำงานกันดึก กว่าจะได้นอน ก็ตี 3 ตี 4
เหงาปากเสะ หิหิ กุเรยต้องหาของแด่ก

ไหนจะเวลาที่เด็กอนุบาลกินของว่างอีกล่ะ เด็กได้กินเหี้ยไร
กุก็ได้พึ่งใบบุญไปด้วยทุกครั้ง อิ่มชิบหาย อ้อ ลืมบอกไป
กุสอนเด็กอนุบาล น่ารักบ้าง น่าถีบบ้าง เป็นบางเวลา
นี่ไง ลูกๆอนุบาล ของกุ น่ารักจริงๆ คิดถึงๆ
.......................................
นอกจากจะมีความถ่อยที่เป็นพรสวรรค์มาตั้งแต่กำเนิด
ยังเสือกได้ไขมันไว้ประดับความอัปลักษณ์อีก เท่ห์จริงๆ
ทุกๆวันอาทิตย์ ที่หน้าโรงเรียน มันจะมีตลาดนัด
จากที่กุ วุ่นวายตั้งแต่จันทร์ ถึง ศุกร์ กุเรยเดินแร่ดหน้าโรงเรียน
ก็ไม่ค่อยมีเหี้ยไรให้กุเดินดูซักเท่าไหร่ เสื้อผ้าแม่งก็สวยดี
แต่ถ้าเทียบกะหุ่นควายถึกอย่างกุ กุก็เศร้าใจ รีบเดินผ่าน
ชิบหาย เสื้อผ้าสำหรับคนหุ่นสแลนเดอร์ขนาดนั้น
กุซื้อไปใส่ พุงคงปลิ้น ออกมาแทนนมแน่นอน
กุจะรอคอยให้ถึงวันอาทิตย์มาก เพราะน้ำยาปรับผ้านุ่ม
ราคา ปกติ 20 บาท ราคาที่ตลาดนัดเอามาขาย 18 บาท
พอๆ กะ โลตัส แต่กุไม่มีปัญญา (ขี้เกียจซะมากกว่า) ไปเดินโลตัส
กุเรยรอวันอาทิตย์ เพื่อซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ถูกกว่าตลาด 2 บาท
แม่ง ขี้งกชิบหายเรยกุ -"-

อาทิตย์แรกที่ไป ... กุขี้เป็นเลือด ชิบหาย!
ท่าทางน้อง ริดซี่ (ดวง) เพื่อนรัก จะเล่นงานกุซะแร้ว
กุก็ต้องถ่อสังขารไปหาหมอที่โรงบาล เลิศสิน
เอ้า เสียตัว เอ้ย! เสียตังค์อีกแร้วกุ๊
เหี้ยไรนักหนาวะ
เงินก็ไม่ค่อยจะมี ดีนะ ที่แด่กข้าวที่โรงเรียนกัน
ขี้เกียจโทรขอตังค์แม่ ต๊าย ... นี่ขนาดเงินไม่ค่อยมีนะ
น้ำหนักยังขึ้น ถ้ามีเงินนี่ กลับบ้านมา พ่อแม่คงแทบจะจำกุไม่ได้แน่ๆ
นึกว่าอึ่งอ่างแปลงร่างเป็นคน
หิหิ

ภาษาเหนือวันละคำวันนี้ คำว่า เอิ้น อ่านว่า เอิ้น แปลว่า เรียก เรียกว่า พูดว่า
แต่งประโยค น่องตังตะวาบ่อยู่บ้านก๊ะคับ เย่ยไปเอิ้นอยู่หน้าบ้านเป๋นเมิน
แปลอีกทีว่ะ น้องตังเมื่อวานไม่อยู่บ้านเหรอคับ พี่ไปเรียกที่หน้าบ้านตั้งนานแน่ะ

บ๊าย...บาย
นู๋บลิว เซเลอร์มูน ก๋ากั่น