วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2548

กีฬา ... พากลุ้ม


กุเป็นนักศึกษาฝึกสอน
ดังนั้นเมื่อมีกิจกรรมอะไรก็ตาม กุก็ต้องเข้าร่วม
เมื่อวันพฤหัสบดี สีแสด ที่ผ่านมา มีการจัดกีฬากลุ่มขึ้น
กีฬากลุ่มก็คือ โรงเรียนในตำบลนั้นๆ มาแข่งกีฬาร่วมกัน
โอ๊ย ... ช่างหัวแม่งเหอะ ขี้เกียจอธิบาย กุเข้าใจคนเดียว พอ!
กุได้ดูสูจิบัตรว่า กุมีหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่อะไรบ้าง
อ้อ ... กุได้เป็นกรรมการวอลเล่ย์บอล วุ้ย
แม่งก่อนวันที่จะแข่งกุเคืองมาก ไม่บอกกุซักคำว่าจะให้กุ
เป็นคนซ้อมวอลเล่ย์ฯ ให้นักเรียน กุก็แม่ง
ไม่ได้เอากางเกงใน เอ้ย! กางเกงวอร์ม มา
กุจะทำงานซักหน่อย ถึงเวลาซ้อมเด็กแม่งก็มาเรียกๆกุ
ให้กุช่วยไปซ้อมให้มัน เชรี่ย มาลากๆกุ ยังกะลากควายไปไถนา
แดดร้อนก็ร้อน ขากุแม่งก็ดำชิบหาย ตั้งแต่ไปซ้อมเชียร์ให้เด็กปี 1
เมื่อปีที่แล้วนู้น แทนที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
ก็ดันเสือกมาขี่รถทู้กวันๆๆๆ แร้วต้องซ้อมให้เด็กอีก
จนแม่ง ตอนนี้ ขากุเป็นอีเหนี่ยงแระ
สัด กุเซ็ง
ผ.อ บอกพวกกุว่า ต้องไปช่วยกีฬากลุ่ม 
3 วันแน่ะ เศร้าโคตร เสือกแด๊กเวลาหยุดพักผ่อนในวันเสาร์ของกุอีก
ตอนเช้าวันพฤหัสบดี กุต้องไปแต่เช้า เด็กแม่งมันเดินขบวนกันเช้า
กุต้องแหกขี้ตาตื่นไป พอถึงเวลาแข่ง กุก็ไปถามพวกครูเค้าว่า
"จะให้นู๋ช่วยทำอะไรดีคะ ?"
แล้วเค้าก็บอกกุว่า
"นู๋บลิวช่วยเป็นคนกำกับเส้นก็แล้วกันนะ ช่วยๆกันหน่อยเนาะ"
กุเรยกลายเป็นผู้กำกับเส้น คอยดูว่าลูกมันลงหรือมันออก
อืม ... ธงเหี้ยไรก็ไม่มีให้กุ กุต้องใช้มือชี้เป็นสัญญาณบอก
แดดแรงมาก ร้อนสุดๆ ร้อนจนกุรู้สึกแสบหน้าแสบแขนไปหมด
จริงๆแล้วกุมีหน้าที่แค่ วอลเล่ย์ฯ คู่แรก
... แต่ ...
ต้องแบกรับภาระหน้าที่ กลางแดดเปรี้ยงๆ
ไปอีกหลายคู่
เหตุเพราะว่า ... พวกครูโรงเรียนอื่น
 ไม่รับผิดชอบ
แม่ง ตัวเองมีหน้าที่เป็นกรรมการก็ไม่รู้จักทำหน้าที่
คงคิดว่าพวกเด็กฝึกสอนมี ให้มันทำ ๆๆๆ
เออ ... กุก็ร้อนนะเนี่ย เหนื่อยก็เหนื่อย
แต่ครูบางคนก็ชมว่า
"ผ.อ โรงเรียนนี่ดีนะ ถึงจะไม่มา แต่ก็ยังส่งพวก
น้องๆฝึกสอนมาช่วยงานด้วย ทำให้พี่รู้สึกกระชุ่มกระชวย 
จริงๆนะจ๊ะ"

พวกกุตากแดดเปรี้ยงๆกัน จนแทบเป็นไข้
ครูโรงเรียนกุเป็นกรรมการตัดสินวอลเล่ย์ฯ เป่านกหวีด ปี๊ดๆๆ นั่น
เค้าเห็นพวกกุทำงานเยอะ เค้าเรยมาบอกกับกุว่า
"นู๋บลิว ต่อไปถ้าเห็นครูไม่ได้ตัดสิน ก็ให้ออกมาเรยนะ
ครูพวกนี้นิสัยเสีย เราช่วยเค้าตลอด เค้ามีหน้าที่กลับไม่ทำ"
ในใจกุนี่คิด
กรี๊ดดดด โอ้ว เย่ ดีจริงๆ ดีมากๆเรยค่า นู๋ปวดขาชิบหายแร้วค่า
แต่ปากก็พูดไปว่า
"แล้วมันจะดีเหรอคะ ถ้าพวกนู๋ไม่ทำ เค้าจะว่าหาว่าพวกฝึกสอนไร้น้ำใจ"
ปากดีจริงๆกุ
ฮรี่ๆๆๆๆๆๆ
ครูเค้าก็บอกอีกว่า
"ใครมันจะมาว่า ในเมื่อแบ่งหน้าที่กันแล้ว
ในสูจิบัตรก็บอกรายชื่อคนรับผิดชอบไปแล้ว"
พอกุไม่ได้เป็นกรรมการแล้ว กุจึงไปนั่งกรี๊ด เชียร์เด็กโรงเรียนกุ
แม่ง มันไม่มีใครกรี๊ดเชียร์นี่หว่า กุเรยไป กรี๊ดดดดดดดดด
จนคนอื่นเค้าหันมามอง ก๊ากๆๆ
กุกลัวเด็กไม่มีกำลังใจไง ( มันจะเล่นถดถอยเพราะมึงกรี๊ดเนี่ย )
ใครที่ยืนเชียร์ข้างๆกุ เห็นกุกรี๊ด แม่งมันเรยมายืนกรี๊ดคู่กุ
สะใจชิบหาย!
คงเป็นเพราะกุเก็บกดตั้งแต่เป็นกรรมการแร้ว
จะเชียร์ก็เชียร์ไม่ได้ เป็นกรรมการไง
ตอนกุยืนกำกับเส้นอยู่ ช่วงโรงเรียนอื่นมันแข่งกัน
กุเห็นเด็กผู้หญิงกลุ่มนึง มันกรี๊ดดดดดดด เวลาโรงเรียนมันได้แต้ม
พออีกโรงเรียนนึงได้แต้ม เด็กอีกกลุ่มนึงก็กรี๊ดดดดดด ให้อีก
ทำให้กุเผลอนึกไปว่า
อิดอก กุแสบแก้วหู มดกัดแตะ รึไง แสดดดดดด
แต่พูดไม่ได้ จึงต้องงึมงำๆ อยู่คนเดียว หมั่นไส้จริงๆ
กุได้ยินเด็กกลุ่มที่อยู่ใกล้ๆกุ มันพูดถึงฝั่งตรงข้ามว่า
"เห้ยๆ มีคนมองหน้าพวกเราว่ะ"
กุอยากจะบอกจริงๆว่า
"นี่มึงจะหาเรื่องกันไปถึงไหน ไม่ได้ตบกันนี่ ขี้ไม่ออกรึไง"
คงไม่รู้แร้วว่า ... กุนี่แหละ ผู้หญิงตอแหลรุ่นพี่พวกมึง!
กุเคยเป็นเด็กตอแหลมาก่อน ทำไมกุจะไม่รู้ว่า มันเป็นยังไง
แต่ในคราบของครูสาว กุก็ต้องทำเป็นยิ้มๆ โปรยความใจดี ครอบคลุม
ชิบหาย ถ้ากุอยู่กับเพื่อนๆ แร้วไม่ได้เป็นครูนะมึง!
แต่ก็ต้องทำใจ คิดซะว่า เด็กมันกะลังตื่นเต้นที่จะมีขน
ตอนนี้หน้ากุดำมาก จากเซเลอร์มูน กลายเป็นเปาบุ้นจิ้น ซะงั้น
กุอุตส่าห์ โบ๊ะครีมไปแทบหมดกระปุก ไหนจะใส่แว่นตา
ใส่หมวก ใส่เสื้อคลุม ให้มันปิดไปทั่วทุกอณูรูขุมขน
แต่ก็ไม่ได้ช่วยทำให้กุดูดีขึ้นมาได้เรยซักกะนิด
เวลากินข้าว พวกป้าแม่บ้านถามหากุกัน
"บลิวไปไหนอ่ะ ไม่เห็นมันมากินข้าว ป้าอุตส่าห์ทำมา"
ฮั่นแน่ !!! แอบหลงรักกุแร้วล่ะเซ่
เวลากุกรี๊ดเสียงแห้ง ก็เอามะนาวมาให้กุเว้ยเฮ้ย น่ารักจริงๆ
กุกรี๊ดจนมีคนมาถามพวกป้าแม่บ้าน
"ป้าๆ ใครอ่ะที่กรี๊ดเสียงดังๆอ่ะ โห สุดยอด ทำได้ไง"
"อ๋อ เค้าเป็นครูฝึกสอนน่ะ มาเชียร์เด็กโรงเรียนเค้า"
555555555 อิจฉากุล่ะเสะ เอาเสียงเข้าสู้เว้ย
ถึงจะแพ้ก็ตาม
-"-
แม่ง กุเศร้า
วันสุดท้ายกุก็แหกขี้ตาตื่นไปโรงเรียน
ที่เป็นเจ้าภาพจัดงานอีกเช่นเคย
กุไปด้วยความมึนๆ เบลอๆ ง่าวๆ ง่วงๆ แถมขี่รถหลับในอีก
โอ้ว เย่ เยะเป็ด มากๆค่ะ ทำได้ไงไม่รู้

ขากลับบ้าน กุขี่รถของกุอยู่ดีๆ อิรถเหี้ยคันนึงทำกุรมณ์เสีย
แม่ง กุไม่ได้ทำไรผิด เห็นมันช้า กุกะแซงมัน ถูกกฎจราจรแร้วนะ
พอมันแซงกุ กุก็ไม่ได้คิดไร ทีนี้เห็นแม่งช้าอีก
กุก็แซงมันไปอีก พอกุเข้าทางของกุแล้ว
อิรถที่มีคนขับสันดานควายนี่ แซงกุแร้วแม่ง เกือบเฉี่ยวกุ
ไอ่เหี้ย ไม่ชนกุให้ตายไปเรยเล้า สรัด!
แถมยังบีบแตรใส่กุอีก กุเกลียดชิบหาย อิพวกขับรถ แร้วบีบแตร
หนวกหู ... ขนาดม๋าตัดหน้ากุ กุยังไม่บีบแตรเรย
กุหมั่นไส้เรยรีบบิด แซงหน้ามัน มันก็บีบแตรใส่กุอีก
กุยอมรับว่า กุเป็นคนขี่รถกวนตีน แต่ตอนนั้นกุไม่ได้กวนตีน
กุไม่ผิด! กุขี่มาดีๆอยู่แล้ว กุไม่แน่ใจว่า ที่บีบแตรใส่กุ
เพราะกุเป็นเพศเมีย หรือเพราะว่า ต้องการกวนส้นตรีนกุ
แต่กุแช่งไปหลายร้อยคำแระ ไอ่สาดนี่ เมียไม่ให้ล่อรึไงวะ
เอิ้กๆ
กลับมาบ้าน กุก็นอนขึ้นอืด ก็ยังเสือกเพลียๆอยู่
ผ้าก็ยังไม่ได้ซัก งานก็ยังไม่ได้เคลียร์ โอ๊ย กลุ้มโว้ย
ภาษาเหนือวันละคำวันนี้ คำว่า เย่ย อ่านว่า เย่ย แปลว่า พี่สาว
แต่งประโยค วันนี่เย่ยย่ะสอนน่องตังย่ะซาลาเปาหนาเจ้า
แปลอีกทีว่ะ วันนี้พี่จะสอนน้องตังทำซาลาเปานะคะ
บ๊าย...บาย
นู๋บลิว เซเลอร์มูน ก๋ากั่น
ป.ล ตกเย็นกุจึงไปนั่งแด๊กมู๋กะทะสบายใจ สบายพุง
ความกลุ้มจะได้ย่อยลงในพุงปลิ้นๆของกุให้หมด สะใจ!
( กว่าผิวกุจะฟื้นคืนชีพอีกครั้ง ไม่หมดครีมเป็นถังๆเรยเหรอวะเนี่ย )
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด กุแสบหน้าโว้ย

วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2548

รู้ไม๊ ... กุลูกใคร ?

สมัยกุสาวๆช่วงที่อยู่ประมาณ ป. 5 - ป. 6
กุจำได้ว่า เพื่อนๆในห้อง แม่งมันล่อ เอ้ย! ล้อชื่อพ่อชื่อแม่กัน
บางครั้งถ้ามันเบื่อ ชื่อพ่อชื่อแม่ มันก็จะไปสืบเสาะ
หาชื่อของโคตรเหง้าศักราชมาจนได้ ถึงแม้จะตายห่าตายโหงไปแล้ว
แม่งก็ยังเสือกจะขุดมาได้อีก
กุยังจำได้ว่า สมัยกุ ตอนมันฮิตๆ สุดขีดนี่
ก็คงตอนกุอยู่ ป. 6
แรกๆกุก็มึนๆ โง่ๆ เบลอๆ ไปหน่อย
จู่ๆ เพื่อนมันเสือกเดินมาหากุ แระก็แม่ง มาพูดต่อหน้ากุว่า
เพื่อน : อุทัย!
กุ : อ่าว สัดดอก เรียกชื่อพ่อกุทำไม ?
แต่กุก็ไม่ได้สนใจอะไร กุไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เทรนด์ด่าพ่อล่อแม่
มันเสือกฮิตขึ้นมา ในตอนนั้น
จนมันเริ่มจะเข้ามาประทับโสต กุบ่อยขึ้น บ่อยขึ้น
กุเห็นแม่ง เพื่อนกุโกรธจนหน้าดำหน้าแดง
( ถ้าเพื่อนคนไหนหน้าดำ เวลาโกรธจะออกเขียวๆ )
เอิ้กๆ
กุว่าใครล้อชื่อพ่อชื่อแม่ มันไม่เห็นจะน่าโกรธตรงไหน
แต่พอเห็นเพื่อนมันเสือกโกรธ กุกะเลยโกรธบ้าง
อ่าว ... ซะงั้น
คือแบบว่า ไม่อยากตกเทรนด์ไง หิหิ
ก็ไม่รู้ทำไมว่ะ ทำไมตัวกุต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนั้นด้วย
ทั้งๆที่ก็ไม่ได้ไปสะกิดต่อมอะไรภายในร่างกายซักหน่อย
แล้วปฏิบัติการ สืบค้นประวัติ ขนาด google ที่ว่าเจ๋ง
ก็ยังแพ้ราบคาบ นั้น ก็เริ่มขึ้น
กุงงว่า เพื่อนแม่งไปหาชื่อพ่อแม่ คนในห้องมาจากไหน
อาจจะไปหาที่ สมุดเรียกชื่อ หรือสมุดพก หรือประวัติห่าไรก็ช่างแม่ง
แต่โคตรอัจฉริยะจริงๆว่ะ กุว่าเนี่ย เสือกไปหาเจอจนได้
โตไปคงต้องให้ไปเป็นหน่วยพิสูจน์กลิ่นท่าจะดี อนาคตรุ่ง!
เมื่อมีคนเริ่มโกรธ เริ่มแก้แค้น คิดหาชื่อพ่อแม่มาล้อกัน
ทุกอย่าง ก็มันส์พะย่ะค่ะ
การล้อชื่อพ่อชื่อแม่ ถ้าเสือกล้อกันโต้งๆ ก็จะไม่เริ่ด
แม่งก็ต้องหาวิถีทาง ที่จะให้เพื่อนมันแค้นใจให้ได้มากที่สุด
อดีตเพื่อนคนนึง ( ก็เคยเป็นเพื่อนแต่ตอนนี้ไม่ได้ติดต่อกันอีก จึงเป็นอดีต )
พ่อมันชื่อ ประสิทธิ์ แม่ชื่อ ยัยน้อย
กุก็ชอบไปล้อมันว่า
กุ : เห้ยๆ มึง เห็นรถคันนั้นป่ะ กุว่าประสิทธิภาพ!ของคนขับรถคงน้อย!อ่ะ
วะฮะๆ กุหัวเราะด้วยความสะใจ ส่วนมัน ถลึงตาใส่กุ จนแทบถลน
น่ากัวมั่ก -"-
แต่มันก็โดนกุซัดซะ 1 ดอก สะใจเหี้ยๆ
อดีตเพื่อนอีกคน ผู้ซึ่งมีชื่อพ่อกับชื่อแม่ สามารถ
นำมาแต่งประโยครวมกันได้ เหมือนอดีต เพื่อนคนแรก
พ่อมันชื่อประโยชน์ แม่ชื่ออำนวย 2 คำ นี้ จะอยู่ในหนังสือหลายๆวิชา
มันก็โดนพวกเพื่อนๆในห้องรวมทั้งกุ ซัดซะ ในเวลาที่อาจารย์
ให้อ่านข้อความในหนังสือ เช่น
"เครื่องปรับอากาศ สามารถ อำนวยประโยชน์! ให้เราคลายร้อน"
ถ้ากุเป็นมัน กุคงช้ำใจตายห่า เพระแม่ง วิชาไหนๆ ก็มีแต่ชื่อพ่อแม่มัน
พ่อแม่อยู่บ้านเฉยๆ คงสำลักชักดิ้นชักงอไปแระมั้ง
ส่วนกุ เวลาโดนล้อชื่อพ่อแม่ ก็จะรู้สึกโกรธชิบหายอยู่เหมือนกัน
( ก็บอกแล้วไง ไม่อยากตกเทรนด์ )
กุจึงต้องหาวิธีปรับเปลี่ยนซะใหม่
จากที่เคยโกรธๆ เคืองๆ ก็เปลี่ยนมาเป็น
เพื่อน : อุทัย!
กุ : อะไรนะ กุหน้าเหมือนสาวแดน อาทิตย์อุทัยเหรอ
ดีจังๆ มึงเป็นเพื่อนที่น่ารักมาก
เพื่อน : สุนันทา!
กุ : อุ๊ยตายแระ สุนันทา นี่เป็นชื่อของเมียพระอินทร์นะมึ๊ง
แสดงว่า ยกให้พ่อกุเป็นเหมือนพระอินทร์ด้วยเหรอ กรี๊ดๆ ขอบใจนะคะ
หน้าด้านมาก !
แก้ไปด้วยน้ำขุ่นๆ สุดๆ แต่ก็สามารถกู้หน้ามาได้นิดหน่อย
เพราะเพื่อนจะรู้สึกอึ้ง และหันกลับมาพิจารณา
ตัวเองว่า นี่กุต้องหาวิธีใหม่ๆมาล้อมัน แร้วเหรอวะเนี่ย
ปล่อยให้มันแป้กไป สมหน้ามึง!
สมัยที่อิโบว์น้องกุเรียนอยู่จุฬาภรณ์ฯ ในช่วง ม.ต้น
( แม่งเรียนเก่งว่ะ สัดนี่ อิจฉา )
มันเคยเล่าให้ฟังว่า เด็กเรียนเค้าก็ล้อชื่อพ่อชื่อแม่เหมือนกัน
ถ้าเพื่อนมันจะล้อชื่อพ่อ มันก็จะทำเสียงไอ
"ไอ ไอ ไอ ไอ ไอ ถุ"
~ อุทัย ~
... หรือเวลา ...
น้องกุมันอยากจะล้อชื่อแม่ของเพื่อนมันก็จะพูด
ประกอบเหตุกาณ์บางอย่าง
"โห่ อย่าทำงี๊สิ มีไรทำไมไม่บอกกัน มันคา คา คา คา คาทะลีแย็ท"
~แคทลียา~
-"-
จำได้ว่าสมัยที่เรียนมัธยม กุกับเพื่อนเคยตั้งชื่อทีมแข่งวอลเล่ย์ฯ
ว่า "ไข่จูเนียร์"
จริงๆแล้ว "ไข่" เป็นชื่อของยายเพื่อนกุ
แล้วพวกกุไม่รู้จะตั้งชื่อทีมว่าไรแล้ว
เรยลงมติเป็นเอกฉันท์กัน
"เอาวะ เอาชื่อยายไข่ ยายมึงเนี่ยแหละ"
เวลาทีมกุได้แต้ม จะมารวมพลังกัน "ไข่จูเนียร์ สู้โว้ย!"
บางทีกุก็เคยเผลอเหี้ยออกมาเหมือนกัน
ตอนที่แม่ของเพื่อนมารับมันกลับบ้านในช่วงเลิกเรียน
เพื่อนกุมันชื่ออิตุ๊ก แม่ชื่อ สายหยุด
ตอนแรกกุจะเรียกมันว่า "เห้ย ตุ๊กๆๆๆๆ พรุ่งนี้เจอกัน" ประมาณนี้
สรัดแม่ง !!!!
กุเสือกไปเรียกด้วยเสียงอันดังว่าต่อหน้าประชาชี
"หยุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พรุ่งนี้เจอกัน"
แว้กกกกกกกกกกกกกกก
กว่ากุจะรู้ตัวก็สายซะแร้ว แม่มันบอกว่า โห่ เล่นงี๊เรยนะ
พลาดอย่างแฮง! กุพลาด แม่ง เชี่ยมาก
ฉะนั้น เวลาจะล้อชื่อพ่อแม่เพื่อน กุต้องระมัดระวัง ระแวง
และทำสมองมีสมาธิที่สุด
( หูยยย อิเว่อร์ )
ไม่งั้น ... อาจพลาด ตายอย่างเขียด เฉียดนรก ( แด๊ก กบาล )
เหมือนตอนล้อชื่อแม่อิตุ๊กได้
บางครั้ง การสืบค้นข้อมูลของเพื่อน กุก็แอบไปถามไถ่คนในครอบครัวมัน
เช่น อดีตเพื่อนกุมันชื่อไอ่หนึ่ง มันมีน้องชาย เรียนอยู่ ป. 1
เสร็จกุ!
"ไนท์ๆๆ พี่ถามไรหน่อยดิ่คับ แม่ไนท์ชื่อไร"
"แม่ชื่อประจบคับพี่บลิว"
นั่นไง
จะเอาเหี้ยไรกะเด็กเล็กๆ ฟันหลอๆได้เล่า
หลังจากนั้น
ยัยประจบก็ต้องนั่งสำลักอยู่ที่บ้านโดยไม่รู้สาเหตุ ซักนิด
เหตุที่กุมารำลึกถึงเรื่องราวในอดีตชาติอันยาวนานนี่ได้
เพราะกุได้ยินเด็ก ป. 2 แม่ง ล้อชื่อพ่อแม่กัน
"ยายแดง แม่ไอ้อั๋น ยายแดงแม่ไอ้อั๋น"
แล้วมันก็วิ่งไล่ตีกัน กุก็เลยคิดในใจว่า
พวกมึงไวไฟกันมากๆเลย ตอนกุล้อนี่
กุอยู่ ป. 6 แต่มึงอยู่กันแค่ ป. 2 นี่มึงเสือกล้อชื่อพ่อแม่กันริ้วเหรอ ?
บางครั้งนึกไปมันก็ตลกดี ที่เคยผ่านเหตุการณ์บ้าๆอย่างนั้นมา
มันคงเป็นช่วงเวลาที่กุเริ่มแก่ หนังหนาปานหนังแร่ด ขึ้นมาทุกทีๆ
จนถึงบัดนี้ กุก็ยังไม่เข้าใจว่า การล้อชื่อพ่อแม่ มันน่าโกรธตรงไหน
หรือคงเป็นเพราะมันดูเหมือนการไม่ให้เกียรติ
หรือรังแกบุพการี ทางอ้อม อันนี้ไม่ทราบได้
( อ้อ ! แล้วก็ไม่ต้องเสือกล้อชื่อพ่อแม่กุเพราะเห็นว่ากุไม่โกรธนะ ครวย )
แต่อย่ามาขึ้น อี ขึ้น ไอ้ กับชื่อพ่อแม่กุแล้วกัน สัด กุจะตบกะโหลกให้
ตอนเด็กๆ นอกจากจะล้อว่าไอ่นั่นแฟนอินี่ แล้ว
เรื่องล้อชื่อพ่อแม่ ก็เป็นเรื่องสุดฮิต ติดเทรนด์ ของเด็กๆกันเลยว่ะ
... ขอบอก ...
ภาษาเหนือวันละคำวันนี้ คำว่า ครัวไฟ อ่านว่า ครัว - ไฟ แปลว่า ห้องครัว
แต่งประโยค บลิวๆ ไปยิ๊บมีดตี้ครัวไฟ ฮื่อแม่กำดุ๊
แปลอีกทีว่ะ บลิวๆ ไปหยิบมีดในห้องครัวมาให้แม่หน่อยซิ
บ๊าย...บาย
นู๋บลิว เซเลอร์มูน ก๋ากั่น
ป.ล ถึงอิโบว์น้องกุ กุมีไรจะบอกมึงว่ะโบว์
"อุทัย! & สุนันทา!"
วะฮะๆ เป็นไงล่ะมึงๆ ก๊ากๆๆ
( อ่าวเวร พ่อแม่เดียวกัน )
- -!

วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2548

ของรัก ... ของข้า!


กุมีผ้าเช็ดตัวอยู่ผืนนึงเก่าแร้ว
สีชมรู เอ้ย! สีชมพู
อิผ้าเช็ดตัวของกุผืนนี้ แม่ง กุโคตรผูกพัน
ไม่รู้ทำไม กุจำไม่ได้ว่า กุเริ่มใช้มันครั้งแรกเมื่อไหร่
เพราะกุความจำสั้น
แต่กุชอบใช้มาก ถึงมากที่สุด
ลักษณะของผ้าแสนรักของกุ คือ
มีแต่คราบเหี้ยไรก็ไม่รู้ววว เต็มไปหมด ทั้งๆที่กุกะว่ากุซักริ้วนะ
เอ๊ะ ... หรือจะเป็นคราบน้ำเหลืองของกุวะ
- -"
สีแม่งกระดำกระด่างอย่างแรง แต่กุก็ยังชอบใช้มัน
พ่อกะแม่ ก็ชอบบอกให้กุเปลี่ยน ผ้าเช็ดตัวผืนใหม่
แม่บอกว่า แม่ซื้อมาให้ ทำไมไม่เอาไปใช้ ทำไมต้องใช้อิตัวเก่าๆนี่ด้วย
ไม่อายเพื่อนบ้างเหรอ ? เวลาเพื่อนมาบ้านแล้วเห็นเรา
นุ่งผ้าเช็ดตัว โสโครกนี้น่ะ
( แม่แม่งพูดงี๊ได้ไง กุแซ๊ดมาก ว่าผ้ากุ๊ )
กุเคยบอกแม่ว่า
"ไม่ซักนิด ไม่เห็นจะอายซักนิด ลองเพื่อนมาว่ากุเรื่องนี้สิ กุจะถีบให้"
กะกุชอบว้อยยยย ใครจะทำไมกุเล๊า
เวลาเด็กนักเรียนโทรมาหากุ พอกุวางสายจากนักเรียนกุปุ๊บ
พ่อก็จะพูดลอยๆประมาณว่า
"รักครูบลิว โทรหาครูบลิวนัก อยากให้มาเห็นผ้าเช็ดตัวครูบลิวจังเร๊ยยยย"
ดูพ่อกุสิคะ ... ซ้ำเติมกุขนาดหนัก ประจานลูกว่าใช้ของเน่า
แม่ง ผ้าผืนนี้ มันเช็ดตัวได้ดี แร้วมันกะนุ่งสบายเวลากุออกจากห้องน้ำนี่หว่า
พ่อกะแม่กุ เคยจะเอาผ้าผืนนี้ไปทิ้งหลายครั้งแระ
แม่ชอบขู่ว่า "โอ๊ย เห็นแล้วอยากเอาไปทิ้ง ทนใช้ไปได้ไงเนี่ย"
แต่กุเสือกไปเห็นซะก่อน กุนี่ วีนแตก
แม่งก็ผ้าแสนรักของกุนี่ กุไม่ยอมร๊อก เชอะ!
มีอยู่วันนึง พ่อเอาผ้าเช็ดตัวของกุ ไปพาดไว้กับกระโปรงรถ
แม่ง ... กุเคียงมาก พ่อจะเอาไปไว้เช็ดรถ
ทำงี๊ได้ไงวะ กุเจ็บใจมั่ก กุกะบอกว่า
"พ่อออออออออ ห้ามเอาไปทำที่เช็ดรถนะ นั่นมันผ้าที่นู๋รักน๊า
ห้ามๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"
แร้วพ่อกุก็ทำเป็นเอาพาดไว้อย่างนั้น
แร้วบอกว่า "พ่อเอาไปตากให้ไง๊เห็นมันเปื่อย เน่าอยู่ในบ้านน่ะ"
กร๊ากกกกกกกกกกก ... พ่อหัวเราะเยาะกุ
กุนี่ เซ็งเรย แม่ง ทะมัยต้องให้กุใช้ของใหม่
ถึงมันจะโสโครก มาก แต่กุก็ซักบ่อยๆ และกุไม่ชอบใช้ผ้าผืนอื่น
บอกไม่ถูกเหมือนกัน ... ชะรอยจะเป็นเนื้อคู่กันมาแต่ปางก่อน ...
กุบอกเค้าไปตั้งหลายครั้งแล้วว่า ไม่ชอบใช้ผืนอื่น
กุชอบใช้ผื้นนี้ๆๆๆๆๆ แม่งก็จะเอาผ้ากุไปซ่อนเว้ย
กุงงมาก เห้ย แร้วจะเอาไปซ่อนทำไมอ่ะ
รังเกียจผ้าของกุขนาดนั้นเชียว ?
เมื่อวันก่อน
ป้ากุมาจากแพร่
ด้วยความที่ป้าเป็นคนที่ชอบจัดนู่นจัดนี่
กุกลับจากสอนเด็ก เข้าบ้านมา
ไอ่เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ป้าตัดผ้าเช็ดตัวกุ๊ ตัดแม่งขาดหมดเรย แร้วเอาไปเป็นผ้าเช็ดตรีน!
โดยให้เหตุผลว่า
"มันเก่าแล้วอ่ะ ป้าไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์อะไรนอกจากทำแบบนี้"
"วะฮะๆๆๆๆ"
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เวร เวรของกุ โอ๊ยแม่ง กุเศร้ามาก เสียใจอ่ะ แม่ง
กุเดินไปดูเศษเน่าๆ ของผ้าแสนรัก ฮือๆ
ป้านะป้า ทำก่ากุได้
กุอุตส่าห์ ห้ามพ่อ ห้ามแม่ ห้ามใครๆ มาเอาของกุไป
ห้ามไม่ให้ใครเอาไปซ่อน หรือเอาไปทิ้ง
ก็กุรักของกุนี่
สุดท้าย แม่ง มาตายห่า เพราะป้ากุ๊
แง้ อารมณ์เศร้าอย่างรุนแรงสิกุ
ใครไม่มีของที่รัก และผูกพัน คงไม่รู้หรอกว่า
กุเศร้าแค่ไหน บอกไม่ถูกว่ะแม่ง
อิห่า เวลาเค้าบอกว่า ผ้ากุโสโครก หรือผ้ากุเป็นดำเป็นด่าง
กุแม่งก็เอาไปซัก ซักแล้วซักอีก
ไอ่คราบมันก็ไม่หาย แต่ความหอมสะอาดสดชื่น
มันมีนะเฟร้ย
ภายนอกอาจะดูซกมก แต่ขอโทษมันสะอาดนะมึง!
ตอนนี้ ในใจยังถวิลหา แต่ผ้าผืนเก่า
ใช้ผ้าผืนไหน ก็ไม่สุขใจเท่าผืนเก่า
ท่าทางกุจะประสาทแด๊กนะเนี่ย แค่ผ้าผืนเดียว
กุทำไมต้องเป็นขนาดนี้วะ ไอ่สาดดดดดดด
ขอไว้อาลัยแด่ผ้าแสนรักของกุ
รัฐบาลยังมีคำว่า
"จากรากหญ้า ... สู่รากแก้ว" เลย
แร้วทำไมกุจะมีคำว่า
"จากผ้าเช็ดตัว ... สู่ผ้าเช็ดตีน"
บ้างไม่ได้
ไอ่ห่า แม่งเสียดาย ยังใช้ได้ดีๆ ไม่น่าเล๊ย
ของรักของกุ๊ อนาถแท้ๆ
-"-
( กรุณาอ่านออกเสียงชื่อเรื่องตาม เสียงของกอลลั่ม )
แร้วจะได้อรรถรส เหี้ยๆ เรย
ภาษาเหนือวันละคำวันนี้ คำว่า ต้ง อ่านว่า ต้ง แปลว่า นา , ทุ่งนา
แต่งประโยค วันนี่ย่าไปต้งมา อิ๊ดขนาดเจ้า
แปลอีกทีว่ะ วันนี้ย่าไปทุ่งนามา เหนื่อยมากเรยค่า
บ๊าย...บาย
นู๋บลิว เซเลอร์มูน ก๋ากั่น
ป.ล แหยม ยโสธร แม่งอย่างฮา ใครไม่ได้ดูรีบไปดูซะ กวนตีนดี
อ้อ ถ้าใครเส้นลึกเกิน มึงไม่ต้องไปดูหรอก นั่งชักว่าวเล่นที่บ้านดีกว่าค่ะ