วันเสาร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2566

ไม่มี Vol. 2





เอ้า ! ตายห่า !!! 
ครั้งที่แล้วเขียนเรื่องหนังสือแล้วดันทิ้งไว้ว่า Vol. 1 
ละยังไงต่อ ? ละกุก็ลืมไปเลยไง 5555555555


เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยย ~ 
ตลก !!!
แม่ง เหมือนกุวาร์ปมาเลยอะ เชี่ยไรเนี่ย 
หลงทางไปไหนมาแม่งตั้งหลายปี
สรุปละกัน ไม่มีแล้ว Vol. 2 หรืออะไรใด ๆ 
คือกุลืมจริงค่ะ ลืมชิบหายเลยค่ะ
กลับมาครั้งนี้ไม่เชิงว่าคิดถึงบล็อก คือไงดี 
คิดถึงแหละ คิดถึงการเขียนบล็อกของกุมาก
มีอะไรมากมายที่เปลี่ยนแปลงไป และมีอีกมากมายที่ยังไม่เคยเปลี่ยน
สิ่งที่กุไม่อยากคิดถึงก็คือความเจ็บปวดทั้งหลายที่เคยผ่านมา
มันก็ยังยากนักที่กุจะลืมน่ะนะ 
เรื่องบางเรื่องแม่งยังเหมือนกับผ่านมาเมื่อวาน 
เหมือนในบล็อกที่กุเขียน มันยังเหมือนกับเพิ่งผ่านมาเมื่อวาน 
แม้จะผ่านมากี่สิบปี ก็ยังจำได้ดี คิดว่านะ
ตอนนี้กุไม่ได้อินกับการเล่นเฟซอะไรอีกแล้ว
ตอนแรกคิดว่าจะย้ายฐานการแรดออนไลน์ใช่มะ
ตอนนี้ไม่คิดว่าต้องย้ายหรืออะไรแล้วล่ะ มันก็ยังเหมือนเดิม
มีคนถ่อยกว่ากุด้วยซ้ำ บางทีก็เหมือนเขียนบล็อกแหละกุว่า
เพียงแต่เป็นแพล็ตฟอร์มที่กว้างใหญ่ขึ้น ไม่มีแล้วที่ใครจะมาเขียนบล็อก ใช่มะ ?

แต่กุมา !!!  วะฮะ ๆ กุมาว่ะ

แต่ไม่มีการตกแต่งบล็อกเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว 
เพราะตอนนั้นที่ตกแต่ง กุก็ไม่ได้ทำเองอยู่ดี
ตอนนี้คน ๆ นั้น เลิกกันไปแล้ว 
ดังนั้น สิ่งที่เค้าเคยทำไว้ให้มันก็เลยละลายหายไปเช่นกัน
กุไม่ได้ลบนะ แต่คิดว่าโฮสต์ ( เค้าเรียกโฮสต์ปะวะ หรืออะไรสักอย่างนี่แหละ )
ที่เอาไว้ฝากภาพหรืออะไรมันท่าจะหายไป 
เอ๊า ! กุว่ากุจะเข้ามาแป๊บเดียว เขียน ๆ แล้วไป 
แต่ทำไมเหมือนมันพรั่งพรูออกมามากมาย
แต่ก่อนจะเขียนแต่ละเรื่อง คิด เรียบเรียง ตั้งนาน
ตอนนี้ไม่ใช่ อยากเขียน อยากเล่า กุพิมพ์รัว ๆ รัวยิ่งกว่าเดิมอีก ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ
อาจเพราะบ่มเพาะไปกับเฟซปะวะ ? เลยรู้สึกว่ามันลื่นไหลมากขึ้น
ก็คงเหมือนเดิม ไม่ได้คิดว่าจะมีใครมาอ่าน 
ก็คงมีแต่กุที่กลับมาอ่านซ้ำ ๆ เช่นเดิม 
เรื่องบางเรื่องกุก็ไม่คิดจะกลับไปอ่านซ้ำ ทั้งที่แต่ก่อนอ่านซ้ำบ่อย ๆ
บางเรื่อง กุได้เข้าไปแก้ไขสถานที่ หรือชื่อคนอยู่บ้าง 
เพราะเมื่อโลกออนไลน์มันกว้างขึ้น มันสามารถเข้าถึงได้มากขึ้นกว่าเก่า
อะไรที่เคยบอกเล่าในนี้ มันอาจเกิดปัญหาเป็นวงกว้างทีหลังได้
อะไรที่เคยสนุก แม่งก็คงไม่สนุกอีกต่อไปแล้ว ความก๋ากั่นในวันนั้นก็เบาบางลง
แค่เบาบางนะ ยังไม่สูญสลายหายไป
อยากเขียนอีกเยอะ ๆ แต่ทำไมแล็ปท็อปกุจะค้างอีกแล้ววะ
เหี้ยมากค่ะ ตั้งแต่ซื้อมาแม่งเป็นงี้ตลอด ไม่ทราบเป็นส้นตีนอะไร
ช่วงนั้นแม่งโควิดด้วย ไปร้านบ่อย ๆ ก็อันตราย 
อีเหี้ย ทำไมร้านที่ซื้อมันแก้ไขแล้วยังเป็นอย่างเดิมวะ

ไม่อยากจดจำเรื่องเหี้ย ๆ เลยค่ะ แต่ยิ่งอยากลืม แม่งก็ยังเสือกจำ
แต่ก็นั่นแหละนะ ชีวิตในวันนี้อาจสุขมากกว่าทุกข์ล่ะมั้ง รึเปล่า ? 

... อยากกลับไปบอกตัวเองในวันเก่าว่า " จริง ๆ มึงน่ารักนะ มึงเป็นคนที่ดีที่สุด
เป็นคนดีที่แม่งไม่มั่นใจมาตลอด แต่จริง ๆ มึงดี ! มึงต้องรักตัวเองเยอะ ๆ 
รักตัวเองแบบที่มึงเคยคิดน่ะ ตอนนั้นก็ถูก แต่มีการที่รักตัวเองในอีกรูปแบบนึง
แบบที่เคยได้ยิน ได้ฟังมานั่นแหละ แต่ตอนนั้นมึงแค่ไม่เก็ต 
ไม่เป็นไรนะมึงนะ มึงคิดแบบนั้น เป็นแบบนั้น ณ ตอนนั้น
ก็เพราะว่าตอนนั้นมันคิดได้แค่นั้น เป็นได้แค่นั้นไง ไม่โทษมึงนะ รักมึงยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ
รักในสิ่งที่มึงเปราะบาง รักในสิ่งที่มึงอ่อนไหว รักในตอนที่มึงรู้สึกอ้างว้างไม่มีใคร
แต่ตัวกุในปัจจุบันนี้ รักมึงนะ มึงคือเวอร์ชันที่ดีที่สุดในทุก ๆ ตอนของการเจริญเติบโต
ในวันนั้นมึงไม่ได้โง่นะ ไม่ได้โง่เลย กุในวันนี้รับรองได้ ถึงวันนี้กุผ่านมึงมาแล้ว
แต่กุก็ยังไม่ได้มุ่งไปข้างหน้า ตัวกุในอนาคตจะอยากบอกอะไรกับกุบ้างนะ ? 
ส่วนกุ กุบอกได้ว่า ไม่ว่าจะยังไง รักตัวเองในเวอร์ชันที่เป็นตัวเองในทุก ๆ วัน เถอะ
มึงมีกุนะ บลิวในอดีต รักมึงนะคะ โอบกอดนะคะ" ...

ภาษาเหนือวันละคำ วันนี้ คำว่า สวก อ่านว่า สวก
แปลว่า ดุ , โหด 
แต่งประโยค อี่น้องคนนี้ขาวอย่างหยวก สวกอย่างหมา เลย
แปลอีกทีว่ะ น้องคนนี้ขาวอย่างกะหยวกแน่ะ แต่ดุเหมือนหมาเลย


บ๊าย ... บาย

นู๋บลิว เซเลอร์มูน ก๋ากั่น