วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548

คนดี ... ที่ถูกลืม



กาลครั้งหนึ่ง ... ยังไม่นานแค่คืนวันก่อน
มีครูผู้ชายสุดหล่ออยู่คนนึงชื่อจริงว่า ครู อ.
บอกกับกุว่าจะเข้าบางกอกตอนแรกกุนึกว่า
ครูผู้ชายสุดเท่ห์ท่านนั้นมีอบรม หรือประชุมที่บางกอก
แต่กุเพิ่งมารู้ว่า ครู อ. จะไปเดินประท้วง กับพวกครูที่เป็นเพื่อนๆกัน
เค้าชวนกันไป ครู อ. เรยต้องไป ครู อ. เล่าให้ฟังว่า
ที่ครูเค้าติดต่อกันได้เพราะเค้ามีสมาคมครูทั่วประเทศ
สามารถติดต่อกันขอกำลังกันให้ไปช่วยเดินขบวนประท้วงได้
เรื่องของเรื่องก็คือ ... ร้าดถ่าบัน ( เป็นคำพ้องเสียง )
จะถ่ายโอนให้ อมทุกบาททุกสตางค์ มาบริหารจัดการครู
กฎหมายนี้ ออกมาตั้งแต่ ร้าดถ่าบัน คุณ ช. แร้ว
แต่ว่าพอจะเลือกตั้ง ด้วยความที่อยากได้เสียงเยอะไปหน่อย
ท่าน ม. ( เป็นคำนามใช้เรียกชื่อคน ไม่ใช่ชาวเขา )เรยบอกว่า
ให้เลื่อนไปก่อน ยังไม่ให้มีการใช้กฎหมายนี้
คาดว่าคงจะอยากเอาใจครูทั่วประเทศ และก็เป็นไปตามที่ใจคิด
ครูต่างก็เทใจให้คะแนนท่าน ม. จนหมดหัวใจ
แม้กระทั่งลูกครูอย่างกุก็โดนหางเลขไปด้วย ว่าให้เลือก ท่าน ม.
จริงๆแร้ว กุไม่ได้อยากจะเลือกเรยซักนิด ซวยกุอีก
สุดท้ายความโกหก ปลิ้นปล้อน ตอแหล ก็ปรากฎขึ้น
จากภาพที่เห็นครูประท้วงในข่าว จริงๆแล้ว กุก็รู้สึกแย่ๆเหมือนกัน
ไม่มีใครรู้หรอกว่า การที่ครูประท้วงนี่เพราะอัดอั้นกันมานานแล้ว
จะให้พวกคนที่เรียนยังไม่จบ ป. ตรี หรือเรียนแค่ ป. 4
มาคุมพวกครูเนี่ยนะพวกครูก็เรยไม่ยอม
ก็เรยต้องไปประท้วงกันเย้วๆ
นี่ยังเป็นแค่ผู้บริหารกับครูน้อยไม่กี่คนนะ
ถ้ามารวมกันทั่วประเทศ ก็จะมีถึง 5 แสนกว่าคนทีเดียวเชียวค่ะ
ตอนแรกเค้าก็ถามกันตอนอยู่บนรถทัวร์ว่า
ถ้าวันนี้ ร้าดถ่าบัน ไม่ทำตามที่เรียกร้องใครจะโกนหัวบ้าง
ครู อ. จึงบอกว่า ผมโกนๆ แต่สุดท้าย ก็บ่ได้โกน
เพราะคนที่ต้องการจะพูด หรือต้องการเรียกร้องมีมากเกินไป
เรยไม่ถึงพ่อกุ แต่ก็ไม่เป็นไร พ่อกุเค้าก็ไม่ได้อยากจะทำอะไรอย่างนั้น
ถ้ามันไม่จำเป็น คืนนั้น ตอนพ่อกุกลับมาพ่อก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง
กุเรยเข้าไปตอบกระทู้ในเว็ป เกี่ยวกับเรื่องที่ครู กรีดเลือด
และโกนหัวประท้วง ว่าเหมาะสมหรือไม่
กุคิดว่าสิ่งที่เค้าทำอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องนัก แต่กุก็รู้สึกสะใจอยู่เหมือนกัน
ชิบหาย ... แร้วจะให้ทำเหี้ยไรได้ ในเมื่อเรียกร้อง เหี้ยไร
ก็ไม่เคยมาใส่ใจ ไม่เคยมาดู
ค่ะ
แร้วใครๆก็เสือกบอกว่า ครูทำแบบนี้ไม่เหมาะสม
ครูทำแบบนี้ เด็กๆอาจจะเลียนแบบได้ กุถามหน่อย
เด็กเหี้ยที่ไหน มันเคยเชื่ออะไรครูบ้าง ขนาดครูสอนแม่งดีๆ
มันยังไม่เอาเรย กุว่าถ้าเด็กไม่รู้จักคิด ไม่รู้จักว่าอันไหนควรเลียนแบบ
อันไหนควรที่จะไม่ทำตาม กุว่าอิเด็กส้นตีนๆ พวกนี้
ก็สมควรทำเรื่องเหี้ยๆไปดีกว่า กุเรียกพวกที่ทำตัวแบบนี้ว่า " พวกตะแบง "
ชอบอ้างหาว่าทีครูยังทำได้ แร้วทำไมพวกนู๋จะทำมะได้เคอะ
...
สรัด ! คนจะจังไร แม่งก็จังไรวันยังค่ำ
มันคงเอามาแค่อ้างว่าสิ่งที่มันได้ทำนั้น เลียนแบบครู
กุไม่เถียงว่าครูได้เงินเดือนเป็นหมื่นๆก็จริง
และกุก็ไม่เถียงอีกว่า เงินเดือนเป็นหมื่น แต่หนี้สินน่ะเยอะสัดม๋าเรยค่ะ
หักลบกลบหนี้ ครูเหลือเงินเดือน กันไม่เท่าไหร่
อีกอย่างเวลาที่ครูจะเก็บเงินเด็กนักเรียนมันก็จะรู้สึกกระดาก
เพราะเด็กมันมะมีรายได้แร้วยังเสือกเก็บกับมันอีก
เวลาต้องทำสื่อหรือทำอะไรที่เกี่ยวกับการเสริมความรู้ให้เด็ก
ก็จะใครล่ะ ? ที่ออกงบให้
ไม่มี้ ... มีแต่ครู จนๆ นี่แหละ ที่ออกให้ สงสารก็สงสาร จนก็จน
ทำไงได้เสือกมีคำว่าครู ติดตัวอยู่นี่
ลองคิดดู กุยังไม่เคยเห็น พวกวิศวะคนไหน
สร้างบ้านให้คนอยู่ฟรีๆ หรือหมอคนไหนที่ผ่าตัด
หรือ ให้ยาคนไข้ ฟรีๆเลย
นอกจากหมอที่เสียสละไปอยู่บนดอยซึ่งก็น้อยมากถ้าเทียบกับครู
เด๊วนี้ถามเด็กๆก็ไม่มีใครอยากเป็นครูแม่งแล้ว เงินเดือนน้อย
เสียสละมาก พ่อกุเล่าว่า ครูแถบอิสานที่มากันเยอะสุดๆนั้น
ก็เป็นพวกที่ต่อสู้กับความลำบาก ไม่เคยที่จะได้ในสิ่งที่ตนเองอยากจะได้
ถ้าอยากได้อะไรก็ต้องต่อสู้เอา มันคือความเป็นจริงในสังคมชนบท
ทุกวันนี้ กุเห็น กุรู้จักสังคมแบบนี้ ตั้งแต่กุยังเล็กๆ เพราะพ่อแม่กุ
ก็เป็นครูบ้านนอกเช่นกันกุได้เห็น กุได้สัมผัส มันจึงทำให้กุรู้สึกว่า
กุอยากเป็นครูนะ กุอยากจะเป็นอย่างพ่อแม่กุ
นี่คือสิ่งที่กุเรียนรู้ว่าครูมีเกียรติ แต่เด๊วนี้ ใครๆก็ว่าครูไม่ดี
การกระทำที่ไม่ดีต่อเด็ก ถ้าใครที่โดนกดดันมากๆ แล้วโดนเพิกเฉย
แม้กระทั่งส่งหนังสือมาร้องเรียน ก็ยังเสือกโดนเมิน
ไม่มีเหี้ยไรคืบหน้า ถ้าอาชีพอื่นๆ โดนแบบนี้ แม่งกุว่าไม่ฆ่าตัวตายไปเรยเหรอวะ ?
แต่ครู มันเหมือนโดนถีบด้วยแผ่นป้ายขนาดยักษ์ อยู่เต็มหน้าว่า
" มึงเป็นครู มึงไม่ควรทำตัวแบบนี้ "
แล้วครูคือเทวดา รึไงวะ ครูแม่งไม่ใช่คนรึไง
ครูไม่ต้องแด่ก ไม่ต้องขี้ ไม่ต้องปี้ ไม่ต้องนอน เหรอ ?
สัด พูดยังกะครูไม่ใช่มนุษย์เรย ทีเวลาที่ไม่มีเรื่อง
หรือมีเรื่องเล็กๆน้อยๆ ครูก็ไม่เคยประท้วงกันหรอก
แต่คนหัวควย มันก็ยังมีอยู่ สักแต่จะพูด สักแต่จะว่า
ในเรื่องที่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเอง ว่าคนอื่นเค้า อย่างนั้นอย่างนี้
ถ้าไม่ได้รู้เบื้องลึกเบื้องหลัง ก็อย่าว่ากันดีกว่า
มันกวนส้นตีนกุจริงๆ รู้สึกอยากเอาตีนลูบหน้าตะหงิดๆว่ะ
ตอนแรกก็ไม่ได้คิดจะกรีดเลือดกัน แต่ครูเรียกร้องกับนายกว่า
ถ้าไม่ออกมาคุยกัน ก็จะกรีดเลือด ทีนี้ นายกก็แม่งไม่ออกมาซักที
ครูพูดไปแล้วทำไงได้วะก็ต้องกรีด
เพื่อแสดงคำสัตย์ที่พูดออกไป ก็จำเป็นต้องกรีดแหละวะ
เป็นกุ กุก็กรีดเพราะกุมีความบ้าเลือด บ้าพลัง อยู่มากทีเดียว
ถ้าให้กุได้ฟิวส์ขาด กุก็เอาเหมือนกัน
แร้วยิ่งครูพวกนี้ เค้าอยู่ชนบท เค้าอยู่กับความลำบาก
เมื่อเค้าได้ออกมาเรียกร้อง เค้าก็ต้องเป็นแบบนี้
กุไม่รู้ว่า ร้าดถ่าบัน คิดอะไรกันอยู่ที่จะให้พวก อมทุกบาททุกสตางค์
มาควบคุมครูเนี่ย กุรู้ว่าพวกนี้ ก็มีคนดีๆอยู่
แต่คนเหี้ยๆ ชั่วๆ นั้นมีมากกว่า แด๊กเงินกันชิบหายวายป่วง
ก็ยังเสือกจะไว้ใจมันอีกเหรอวะ ? กว่าเงินจะเข้ามาถึงโรงเรียน
กุว่า จะเหลือซักบาทไม๊วะนี่ ปกติแล้วเมื่อก่อน
การขอ งบประมาณต้องผ่านเหี้ยไรเยอะแยะ
ทีนี้ ก็มีกฎหมายออกมาอีกว่าให้ตั้งคณะกรรมการโรงเรียนมา
( พวกชาวบ้านที่เป็นผู้ปกครองนักเรียน )
แร้วให้งบประมาณมาจัดสรร เพื่อซื้อของเข้าโรงเรียนกันเอง
โดยมีผู้บริหารร่วมกันจัดหา กุว่ามันก็ดีอยู่แล้ว
เพราะเด็กๆจะได้มีการศึกษาที่ดีขึ้น ไม่ต้องรอ งบ
ที่จะซื้อนานจนรากงอก อยากได้อะไรก็มาประชุมกัน
ให้เห็นว่าโปร่งใส เสร็จแล้วก็เบิกงบไปซื้อ แบบนี้ดีกว่า
แต่แล้ว เหมือนฟ้าผ่าต้นมะพร้าว เรื่องมันเรยเกิดขึ้น
ที่จะให้ อมทุกบาททุกสตางค์ เข้ามามีส่วนร่วม
ในการจัดสรรงบประมาณ กุว่า กว่างบจะผ่าน
แด่กกันจนพุงปลิ้นแร้วม้าง สมมติงบให้มา 500 ค่านมโรงเรียน
ถ้ามีอิพวก อม มันก็จะแด๊กไปซะ 200 เหลืองบให้เด็กซื้อนมซะ 300
แร้วทีนี้ เด็กได้แด่กเหี้ยไร ? ก็ต้องแด่กนมผสมน้ำเปล่า เจือจางสุดๆ
แร้วจะเอารอยหยักที่ไหนไปใช้ในการเรียนการสอนได้วะ
ก็มันไม่มีอะไรบำรุงสมอง ยิ่งโดนเหาแด่กหัวกันอยู่ด้วยเด็กๆน่ะ
เลือดออกเพราะโดนเหาแด่ก แถมนมที่ได้ไป ก็ไม่มีอะไรที่ช่วย
ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอเลย แม่งน่าสงสารจริงๆ
บางคนก็เสร่อมากๆ บอกว่า ครูทำแบบนี้
เอาเวลาไปสอนหนังสือเด็กดีกว่ามัวแต่มาเดินประท้วงแบบนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ
ควย ค้วย ควย จริงๆเรยค่ะ
...
ถ้ามันไม่เกี่ยวกับตัวเด็ก ครูจะเรียกร้องทำหอกไรวะ
ก็เพื่อเด็กๆเนี่ย ครูถึงต้องมาประท้วงกัน
หรือว่า ไม่มีใครอยากให้เด็กได้ของมาสนับสนุนการศึกษาชิบหาย ...
เค้าอุตส่าห์ มาจากที่ไกลๆ มาเพื่อ เด็กๆ
ทนนั่งรถจนตูดบาน แถมนั่งตากแดดตากฝน อดทน
ก็เพื่อเรียกร้องให้เด็กๆ เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเอง
ก็ยังเสือกมีคนมาพูดงี้ เป็นกุ กุเดินเข้าไปตบเรยนะนี่
คนเราอะไรที่ไม่เกิดกับตัวเอง มันมักจะไม่รู้สึกอะไรหรอก
ครูต้องเสียสละ ครูต้องไม่ทำอะไรวู่วาม ลองมาเป็นครูดูเด่ะ
เงินเดือนก็ไม่สมกับความเหนื่อยยาก ไหนจะต้องโดนว่าอีก
ไหนจะต้องต่อสู้กับเด็กๆที่มีในห้อง แต่ละคนแม่งก็ไม่เหมือนกันซักนิด
เวลาครูสอน แม่งก็เย้วๆๆ กันจะตายห่า ครูก็ต้องอดทน
ครูคนเดียว นักเรียนห้องนึง ก็ปาไปเท่าไหร่อิพวกเหี้ยที่มันชอบว่าครู
กุอยากรู้ ถ้าอย่างมัน มันจะทำได้แมะ ?
ไม่ได้ต่อสู้กับเด็กๆอย่างเดียว ผู้ปกครองเด็กบางคน สันดานควายก็มี
พวกคนเก่งๆ ก็เมินอาชีพนี้ เพราะเงินมันไม่ดี ใครเค้าจะอยากเรียน
แร้วก็มาหาว่าพวกเรียนแย่ๆ ไม่รู้จะเรียนอะไร
เรยต้องมาเป็นครู มึงรู้ได้ไง กุคนนึงที่เรียนแย่อันนี้กุยอมรับ
แต่กุไม่ยอมรับว่า คนอื่นๆที่เรียนครู จะเรียนแย่
แล้วหลักสูตรของครู ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่ใครๆคิด
กุว่ามันยากส์ชิบหายเลย ยากส์สุดๆ เรียนก็หนัก
แต่ก็ไม่มีใครต้องการ น่าน้อยใจชิบหาย
ถ้า ... ( ละไว้ในฐานที่เข้าใจ ) เรียนไม่จบ ป. ตรี แต่เสือกได้งานดีๆ ได้เงินดีๆ
กุว่าไม่ต้องเรียนแม่งดีกว่าว่ะ ไปสมัครสอบ ... ( ละไว้ฯ )
แล้วนั่งกระดิกตีน หายใจทิ้งไปวันๆ ท่าจะดีกว่า
ไม่ต้องจบเหี้ยไรก็ได้เงินเดือน ดีๆ ได้แด๊ก เต็มๆตีน
แร้ว ไม่ต้องอดทนเรียนให้ปวดหัว
กุถึงว่าเด่ะ แม่ง ... ใครๆก็อยากเป็น อบต. กันซะจริงๆ
ทั้งยิงกัน ทั้งฆ่ากันตายห่าก็เยอะ ที่แท้ มันเป็นเช่นนี้แล
โอ้ว เย่ ... เยะเป็ด !

มันบอกว่า อยากมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
กุจำได้เพราะกุดู ถึงลูกถึงคน แค่กุเรียนครู กุยังร้องห่มร้องไห้แทบตาย
ตอนฝึกสอน เพราะเขียนแผนการสอนแล้วก็อ่านหลักสูตรการศึกษาของโรงเรียน
กุก็จะอ้วกแตกแร้ว อิพวกนี้มันเป็นใครวะ ?
อัจฉริยะ ถึงขนาดมาสร้างหลักสูตรให้โรงเรียนเรยเหรอ
ถ้าแน่จริง มึงก็ไปบริหารประเทศไป๊ แต่ต้องบริหารดีๆนะ
ร้าดถ่าบัน หัวควยๆ น่ะ อย่าไปทำเอาแบบดีๆ สุดยอดๆ ไปเล้ย
นี่แหละ กุจะนับถือ กุมาพล่าม เข้าข้าง เข้าใจครูสุดๆ
เพราะพ่อแม่กุ อากุ เป็นครู แถมตัวกุก็จะเป็นครูในอนาคต
ช่วยไม่ได้จริงๆ ถ้าอ่านแร้วคิดว่ากุคิดแง่เดียว
ส้วมกุ กุจะขี้ มันเรื่องของกุ
อนาคต ก็ไม่มีอีกแล้ว พวกข้าราชการ จะมีแต่พวกอัตราจ้าง
ควบคุมกันเข้าไปไม่มีใครอยากเป็นครูแล้วโว้ย
เพราะโดนกดดัน ชิบหาย ... พวกมึงมาเป็นครูกันเองเซ่
แร้วจะเข้าใจ แร้วจะรู้ซึ้ง ถึงคำว่า " คุรุ " มันแปลว่า หนัก ไม่ได้แปลว่า เบา
เห็นใจกันบ้าง ... เติบโต มีความรู้ เพราะครู อาชีพที่เสียสละ
แต่โดนมองข้าม

ภาษาเหนือวันละคำวันนี้ คำว่า เปิง อ่านว่า เปิง แปลว่า เหมาะสม , ดูดี
แต่งประโยค ชุดสีชมพูนี่ เปิง กับอิน่องแต้ๆ ซื่อก่เจ้า ย่ะลดฮื่อ
แปลอีกทีว่ะ ชุดสีชมพูนี่เหมาะกับน้องจังเรยนะคะ ซื้อไม๊คะพี่จะลดให้
บ๊าย...บาย
นู๋บลิว เซเลอร์มูน ก๋ากั่น

ป.ล กุได้ยิน คุณ กนก อ่านคำสาปแช่ง โองการแช่งน้ำของครู
ตอนแรกกุคิดว่าครูจะด่า ไอ่เหี้ย ไอ่ควาย แต่เปล่าเลย
กลับกลายเป็นสำนวน สาปแช่งที่ดูดีมากๆ เจ็บปวด
แต่รู้สึกถึงความฮึกเหิมว่ะ สุดยอดจริงๆ ถึงบางคนจะขี้เมา
แต่พอทำอะไรแบบนี้ สำนวนใช้ได้จริงๆ กุนับถือ
ขอให้ครูทุกคนที่เป็นคนดี เสียสละเพื่อประเทศและเด็กตาดำๆ
ขอให้ทุกท่านมีแต่ความสุขความเจริญ
ส่วนพวกจังไร ส้นตีน ที่ชอบแขวะ ชอบด่า หรือพวกครูเหี้ยๆ
ก็ขอให้แม่งตายๆไปซะเหอะ กุรำคาญ

5 ความคิดเห็น:

Black-Pigeon กล่าวว่า...

1.อบต นี่ก็เป็นอาชีพที่ลำบากน้า...จะเป็นอบตนี่ต้องเสี่ยงชีวิตเชียวน้า เพราะจะเลือกตั้งทีไร ผู้สมัครตายเกลื่อน

2.อาชีพที่เป็นแบบอย่างแก่เด็กมากที่สุด คือดารา ไม่ใช่ครู

3.อีก 10 ปี คาดว่าประเทศไทยจะเจ๊งแน่ๆ

4.พ่อตูก็เป็นครู...

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

โอ้เป็นครูทั้งบ้านเลย

ต้องรอดูคราวหน้า ว่าจะมีใครเลือกอีกหรือเปล่า อิๆ

beginsun กล่าวว่า...

...เอ่อ แม่กูก็เป็นครูแต่กูโนคอมเม้นท์เรื่องพวกนี้
เพราะ แม่กูไม่เดือดร้อน
กูเลยไม่เดือดด้วย

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เกลียดฟักแม้ววะ มันจะซื้อทั้งประเทศแล้ว
เห็นรูปตอนแรกนึกว่าไปโกนหัวมา -_-

PunNeng กล่าวว่า...

ทำไงได้ อดทนว่ะ