วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2553

ชีวิต หมา ๆ

ที่บ้านกุ มีธุรกิจเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่หวือหวามากนัก
คือ การเพาะพันธุ์หมาบางแก้ว ไว้ขาย
ตอนนี้เลี้ยงไว้ประมาณ 4 - 5 ตัว นี่แหละ กุลืม ไม่ทันได้นับ

( เป็นสันดานอีกแล้ว ที่ไม่ได้ใส่ใจชีวิตห่าเหวอะไรของใครเลย )

ส่วนใหญ่จะขายตัวลูก ที่แม่มันคลอดมา ได้ไม่กี่เดือน
บางทีมันก็มีตายบ้าง แข็งแรงบ้าง ปะปน
ไข่ดาว เป็นบางแก้วแม่พันธุ์วัยชราภาพ อีกตัว
ที่อยู่คู่กับครอบครัวกุมานับ 10 ปี

( ใช่มะวะ ? น่าจะใช่ เพราะตอนได้มากุยังเรียนมัธยมอยู่เลย )

ลักษณะของมันก็เหมือนบางแก้วทั่ว ๆ ไป
แต่มีสีน้ำตาลสลับขาว
ไข่ดาวเป็นแม่พันธุ์เหี้ยไรไม่รู้ ที่ไม่ดุ เอาซะเลย
เงียบ ๆ ติ๋ม ๆ ต่างจากตอนที่เคยได้มันมาใหม่ ๆ
อาจเป็นเพราะมันแก่ตัวมากแล้ว
กุสงสารมันมาก เมื่อก่อน มันโดน นังเอ็นดู
( กุตั้งชื่อให้เองค่ะ )

ที่วิ่งออกมาจากกรงของแม่ง กระโดดงับขา กระชากลากถู
ทั้งที่ไข่ดาว มันยังไม่ได้ทำอะไรให้เอ็นดูเลย
และมันก็ยังอยู่ในกรงของมันอีกด้วย
กุกับพ่อแม่งก็ตกใจทำไรไม่ถูก ไม่รู้มันจะโกรธแค้นไข่ดาวอะไรมากมาย
มึงแอบด่ากันเองระหว่างที่อยู่ในกรงรึเปล่าวะ ?
กุไม่เข้าใจ
พอออกจากกรงมาได้เท่านั้น
มึงก็ปรี่เข้าไปทำร้ายร่างกายในทันที
อี่นี่ !มาก็มาทีหลังเค้าด้วยนะ ก็ยังเสือกไปทำร้ายรุ่นพี่ซะได้
สงสารไข่ดาวมาก หากมองดูพฤติกรรมที่เอ็นดูทำร้าย
กุก็ไม่รู้ว่ามันจะจงเกลียดจงชังกันด้วยเหตุใดน่ะนะ
เพราะแต่ไหนแต่ไร มันก็ไม่เคยทำร้ายกันมาก่อน
ก็กลายเป็นว่าส้นตีนข้างไหนซักข้างของไข่ดาว ชะตาขาดไป
มันก็กลายเป็นหมาที่ไม่มีอุ้งตีน เพราะโดน เอ็นดูกัดซะขาดวิ่น
กุได้เห็นบาดแผล ก็นึกอยากจะร้องไห้ กุสงสารมันมาก
เลือดไหลอย่างแรง พ่อกุเอายามาทาให้ มันก็ไม่ร้องอะไรซักแอะ
มีแต่น้ำลายไหลย้อยตลอดเวลา
กุคิดว่า ถ้าอยากร้องไห้ มึงก็ร้องมาเหอะไข่ดาว
ร้องออกมาเพื่อคลายความเจ็บปวดเถอะนะ
ภาพในวันนั้นยังติดตาตรึงใจกุอยู่ มิรู้ลืม
เท่าที่กุสังเกต มันเป็นสตรีเพศที่ไม่แสดงฤทธิ์อะไรเลย
ไม่ค่อยเห่ากุ ไม่เหี้ยอะไรซักอย่าง

จำได้ว่า เมื่อเดือนก่อน เดือนห่าไหนซักเดือนนี่แหละ
มันไว้เชิงสตรีไทย ใจกล้า ต่อสู้กับงูสิง 2 ตัว
กัดซะเละ สงสัยแม่งอีงูสิงนี่เข้ามาในกรงมันมั้ง
เพราะกุก็ไม่ได้ไปดูที่เกิดเหตุ และสภาพศพของงู
เพราะกุกลัวงู กุขยะแขยง อี๊วววววว ~ พูดแล้วหิว
เอ๊ย ! พูดแล้วขนลุก เหมือนกะนัดกันไว้ทุกรูขุมขน

เป็นวีรกรรมของไข่ดาว ซึ่งกุมาคิดเองในใจว่า
เออ นี่รึเปล่าวะ ที่เค้าเรียกว่า พูดน้อย ต่อยหนัก
ไม่ต้องพูด ไม่ต้องบ่น ให้มากความ
ม้าย กุไม่เห่า กุไม่กระโดดเข้าหา แต่กุกัดไม่เลี้ยง !
เริดว่ะ หมากุ แม่งเท่ห์อะ

กุไม่แน่ใจว่าไข่ดาวมันเป็นโรคซึมเศร้ารึเปล่าว่ะ
มันไม่สุงสิงกับใครจริง ๆ เหมือนกะตัวอื่น ๆ ที่เห่ากันขรม
แต่มันก็นิ่ง นิ่งจนกุเกรงใจก็มี ในบางที

เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว พ่อกับแม่กุ ตั้งใจพาไข่ดาวกับเก็บเงิน

( เก็บเงินคือลูกของไข่ดาว ท้องไหนกุก็ไม่รู้
เพราะชีวิตแม่ง ท้องบ่อยเหลือเกิน )

ไปแพร่ เพื่อที่จะให้มันช่วยเฝ้าบ้านของย่ากุ
เด๊วนี้ขโมยชุกชุมมาก บ้านก็เหมือนไม่ใช่บ้าน
ต้องคอยระแวงตลอดเวลา ตำรวจมีไว้ทำส้นตีนอะไรวะ ?
เหตุใด บ้านเมืองถึงได้ย่ำแย่เพียงนี้

กุจะอาบน้ำเอย เดินออกมาชมดาวตอนกลางคืนเอย
กุก็ยังต้องมองซ้ายมองขวา
ไม่เคยสบายใจเหมือนเมื่อก่อนเลย
ที่บ้าน อุตส่าห์ทำกรงเอาไว้ เพื่อให้ไข่ดาวกับเก็บเงิน
มีที่อยู่ตอนที่เค้ายังไม่ปล่อยมันออกวิ่ง

ไปถึงแพร่ตอนค่ำ ๆ ที่บ้านก็ยังแซวกันว่า
โธ่ว ... บั้นปลายชีวิตของมัน
พอแก่แล้ว ไม่ได้เป็นแม่พันธุ์อีกแล้ว ก็เอามาเฝ้าบ้านเนอะ
แล้วก็กลายเป็นเรื่องโจ๊กกันไป หัวเราะเฮฮา
ไม่ได้คิดอะไร
พอเช้ามา
( ก็ไม่เช้า เพราะกุตื่นสาย กุเรยคิดถึงเวลาที่กุตื่นว่าเช้า )

กุมัวแต่นอนกลิ้งไปกลิ้งมา
ทำท่าสบายเหมือนเล่นโฆษณาผ้าอนามัยเพลิน ๆ
ได้ยินเสียงย่าเข้ามาในบ้าน พร้อมตะโกนบอกทุกคนในบ้านว่า
" ไข่ดาวตายแล้ว ! มันวิ่งออกนอกถนน
แล้วรถชนตาย โธ่เอ๊ย ไข่ดาว "
ได้ยินดังนั้น หูกุผึ่งทันที คิดในใจ
อ้าวเหี้ยแล้ว อะไรเนี่ย เพิ่งเอามานะ
แล้วย่ากุก็พูดซ้ำ ๆ อยู่อย่างงั้น
เพราะย่าก็เลี้ยงมันตอนไปพิดโลกบ่อย ๆ
พ่อแม่กุก็คงช็อคเช่นกัน เพราะพ่อไม่ยอมดูศพมันเลยด้วยซ้ำ
ก่อนหน้านั้น ที่บ้านบอกกุว่า

( เอ่อ ... ก็ตอนกุยังไม่ตื่นอะนะ )

เก็บเงินมันกัดแม่กุ จู่ ๆ ก็กระโดดกัด แม่กุร้องเสียงหลง
ส่วนน้องที่เป็นญาติกับกุ ก็โดนเก็บเงินกัดเช่นเดียวกัน
พ่อกำลังจะไปส่งแม่กับน้องไปฉีดยาที่โรงพยาบาล
ก็มาได้ข่าวของไข่ดาวซะก่อน

พิโธ่ พิถัง อนาถชิบหาย ... มันเกิดอะไรขึ้นในวันนี้วะ !
ความงุนงง และสับสน เข้ามาสะกิดในหัวของกุ และคนในครอบครัว
กุลองวิเคราะห์จากสถานการณ์แล้วบอกทุกคนว่า
ไม่แน่หรอกนะ ... มันอาจเป็นเหมือนกรณีของดาวลูกไก่ก็ได้
เมื่อคืนไข่ดาวกับเก็บเงินมันอาจจะสั่งเสียกันไว้แล้ว

" แม่ทนอยู่ในกรงต่อไปไม่ไหวแล้ว แม่เครียดเหลือเกิน เก็บเงิน
พอเจ้าของเอาแม่มาไว้ที่แพร่ แม่ทนไม่ได้ แม่ขอลาลูกเพื่อตายจะดีกว่า
อยู่ดูแลบ้านด้วยนะ "

อะไรประมาณนี้

ด้วยความที่เก็บเงินก็คงเครียดที่แม่แม่ง อะไรวะ มาลาตายกับกุ
มันจึงเกิดอาการเครียดที่รู้ว่าแม่กุจะตายแระ
ดังนั้น ... จึงได้กัดแม่และน้องกุ นั่นเอง

( อีสัด เป็นเรื่องเป็นราวนะ )

แต่กุคิดงี้จริง ๆ ว่ะ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้บนโลกใบนี้
มันอาจจะเครียดเรื่องอื่น หรืออาจจะไม่ได้เครียดเหี้ยไรเลยก็ได้
แต่กุคิดแบบนี้ ... ความเครียดกับหมา มันมีความเป็นไปได้สูงทีเดียว
ตอนนั้นอากุเปิดประตูบ้านแป๊บเดียว
มันก็วิ่งออกนอกบ้าน แล้ววิ่งไปถนนใหญ่
จากนั้น ตู้ม ! รถชน น้องชายกุก็วิ่งไปลากมันกลับมาบ้าน
กุยังไม่ไปดูสภาพศพของมัน แต่เห็นน้องบอกว่า ไส้ไหลทีเดียว
กุอ่อนใจ อยากร้องไห้ แต่กลัวหาว่ากระแดะ
ช่วงบ่าย อากุเริ่มขุดหลุมเตรียมฝังมัน
กุเลยได้มีโอกาสไปยืนไว้อาลัยให้มัน และตรวจดูสภาพศพอีกครั้ง
ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย จริง ๆ ที่จะได้เห็นมัน
สภาพของไข่ดาวดูดีมาก เหมือนสงบที่สุด หลับตาพริ้ม ปากงับ ไม่อ้าออก
ไม่มีเลือด ไม่มีสมองไหล ไม่มีห่าอะไรเลย
กุมองไปที่ท้องของไข่ดาว กุเห็นไส้ของไข่ดาวทะลักออกมา
แต่ก็ไม่เห็นเลือดเท่าไหร่ เหมือนท้องปริแตก
แล้วไส้ทะลักแค่นั้น สภาพของไส้ก็ยังดูดี ไม่บิดเบี้ยว
อาจเป็นเพราะน้องชายกุรีบไปลากกลับมา
จึงยังไม่โดนรถคันอื่นบี้เอา
ซึ่งอาจจะเห็นตัวอย่างได้จากการตาย
ของหมาข้างถนนตัวอื่น ๆ
กุยืนมองมันนิ่ง เนิ่นนาน เนิบนาบ
และเดินจากมาด้วยจิตใจที่ว้าวุ่นเหลือเกิน

กุอยากร้องไห้ กุคิดในใจตลอดเวลา
ว่า ... ชีวิตแม่ง หมาสิ้นดี บัดซบ เฮงซวย หัวควย ฯลฯ
1 ร่าง 1 วิญญาณ มันไม่มีความหมายหรือยังไง
คนเรามันเลวร้ายขนาดนี้เลยเหรอวะ ?
การเป็นหมาตัวนึง มันไร้ค่ามากมายแบบนี้เหรอวะ ?

คำถามต่าง ๆ แม่งก็พรั่งพรูออกมา
อย่างล้นทะลักเต็มหัวกลวง ๆ ของกุ
การตายของไข่ดาว ทำให้กุรู้สึกเจ็บปวดอยู่ลึก ๆ
แต่กุก็ยังยิ้มได้
ยังหัวเราะได้ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หนึ่งในคนที่มองคุณค่า และชีวิตของหมาตัวนึง เป็นเรื่อง จิ๊บ ๆ
ก็คงมีกุอยู่ด้วย ณ จุดนั้น
เพราะถึงแม้จะเสียใจที่หมาตายแค่ไหน แต่มนุษย์เรา
ก็ยังเสือกไม่ได้ให้ความสำคัญเหี้ยไรมากมาย กับพวกมัน

ทุกวันนี้ กุก็ยังนึกถึงไข่ดาว อยู่ตลอดเวลา
ยังมะได้ลืมนะ ว่า ครั้งนึง ไข่ดาวเคยเป็นสมาชิกของบ้านกุมานาน
ขอให้มันได้ไปเจอกับสิ่งดี ๆ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับดวงวิญญาณของมัน
ขอให้มันผ่านพ้น และก้าวข้ามอุปสรรค ได้อย่างสง่างาม
ขอให้มัน มีความสุข

ไข่ดาว ... กุ อีบลิว เจ้าของที่ไม่เคยทำเหี้ยอะไร
เพื่อหมาเลย นอกจากจะเศร้าสร้อยเวลาที่ต้องเสียหมาไป
อยากบอกเหลือเกินว่า
... ขอโทษนะ ขอโทษ ที่ต้องมาบ่นลงในบล็อก
ขอโทษ ที่ไม่เคยได้ดูแลมากมายนัก แต่พร่ำบอกว่า รัก ๆ ๆ ๆ
ขอโทษ ที่กว่าจะรู้สึกรู้สม ก็ปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้ซะแล้ว
ขอโทษ ที่รู้สึกอึดอัดใจ เวลาที่ไปดูศพ และกว่าจะไปดู
ก็ปล่อยเวลาให้นานไปมากโข ...
กุทำใจที่จะดูไม่ค่อยได้จริง ๆ
กุสะเทือนใจ ... เสียใจ ... เหมือนมีตีนใครซักคน จุกอยู่ที่ลำคอ
หวังว่า ... การได้เห็นสภาพศพที่สมบูรณ์ และดูสงบนี้
จะทำให้ดวงวิญญาณ ได้พบเจอสิ่งดีเช่นกัน

... กุ ... รัก ... มึง ...
ภาษาเหนือวันละคำวันนี้ คำว่า กะโล่ง อ่านว่า กะ - โล่ง แปลว่า กะลา
แต่งประโยค น่องบลิวเอาน่ำใส่กะโล่งแล่วผ่อหน้าตั๋วเก่า
แปลอีกทีว่ะ น้องบลิวเอาน้ำใส่กะลาแล้วดูน้ำหน้าตัวเอง
บ๊าย...บาย
นู๋บลิว เซเลอร์มูน ก๋ากั่น



ป.ล ตอนนี้พ่อกุเลยเอาเก็บเงินกลับพิดโลกวันที่พ่อกับแม่กลับทันที
ไม่ได้เอามาเลี้ยงไว้ที่แพร่แระ สงสัยรู้สึกเจ็บปวดกระมัง
อีห่า ... พิมพ์แล้ว กุก็อยากจะร้องไห้ รู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก

4 ความคิดเห็น:

สิ่งมีฯ กล่าวว่า...

คิดถึงเสียงบ่นเจ้าของบล๊อค

GirlTear กล่าวว่า...

โอววว ขอบคุณค่ะที่รัก

ว่าแต่ว่า ใครวะ ? - -"

ไม่แสดงตัวเช่นนี้ กุนึกไม่ออกจริง ๆ จ้ะ

ป.ล ชอบเหรอ ? เสียงบ่น ?

ผู้อยากฟัดน้องอวบ กล่าวว่า...

เขียนได้น่าอ่านเหมือนเดิมนะน้อง น่าจะไปรวมเล่ม


จุ๊บๆ นะ น้องอวบ เซ็กซี่ น่าฟัด คิก คิก . . . .

GirlTear กล่าวว่า...

ใครแว้ !!!