วันเสาร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2548

ถ่อยน้อย ... ผจญภัย

เมื่อวานมีงานบายเนียร์รุ่นพี่ปี 4 ไปจัดสถานที่กันตั้งแต่เช้า
กุกะเพื่อนกลับบ้านเที่ยงคืน เพราะช่วยเค้าเก็บของจนเสร็จ
มีกันแค่ไม่กี่คน ที่อยู่จนงานเลิกเก็บของ นอกนั้นดอกทองรีบไปดูแคลช
จังไร! ตั้งแต่ปี 1 ยัน ปี 4 นี่ยังกระแดะ วงเหี้ยนี่ไม่เลิก กุละเบื่อชิบหาย
แม่งหล่อตรงไหนวะ (พอดีพิดโลกมีงานกาชาดและงานนเรศวร)
แม่ง กุโคตรเซ็ง เหนื่อยกันอยู่แล้ว แระก็ต้องมาทำงานกันจนดึกดื่น
เงี่ยน เอ้ย! ง่วงก็ง่วง

กลับบ้าน แร่ดออนไลน์ ยันตี 4 เสร็จแร้วเข้านอน
(ไม่ต้องเสือกอยากรู้ว่าทำไมเหนื่อยแร้วไม่รีบเข้านอน มันเรื่องของกุ!)
ส่วนวันนี้ตื่นตั้งแต่เช้าจะรีบไปแร่ดเลือกตั้งก่อน เพราะพรุ่งนี้ต้องไปบางกอก
ไปทดลองสอน เป็นระยะเวลา เดือนครึ่ง แม่งไม่อยากไปเรย
ขอเงินแม่มาซื้อของ เตรียมตัว กุไปซื้อชุดนักศึกษาตัวใหม่
จากนั้น กุก็ไปเดินตอแหลที่บิ๊กซี พี่รหัสกุอ้อนผัวให้ไปเลี้ยงส่งกุ
มีกุ น้องรหัส หลานรหัส แร้วก็พี่รหัส พร้อมผัว
นัดเจอกันที่ King bar - b - q ตอนแรกว่าจะไปแด่ก mk
แต่แด่กบ่อยแร้ว พี่รหัสบอกว่า ร้านนี้ยังไม่เคยเข้า อยากลองเข้า
เอ้า ... กุยังไงก็ด๊ายค่า ขอให้ได้แด่กเหอะ เพระล้างท้องตั้งแต่เช้าแระ
(ไปแด่กกันตอนเที่ยงๆ)

ผัวพี่รหัส ขอตัวออกไปรับรุ่นพี่ มาแด่กด้วย นานชิบหาย
กว่าจะกลับเข้ามา แต่กุไม่วอร์รี่ มีหน้าที่แด่กก็แด่กแม่งอย่างเดียว
สะใจชิบหาย โฮะๆๆๆ
พอผัวพี่รหัสพาเพื่อนมา เพื่อนเค้าก็แม่งชวนกุคุย
ไอ่เหี้ย กุอยากแด่ก กุไม่อยากคุ๊ยยย สัดม๋าเอ้ย
มาถึงแม่งก็ชวนคุยๆๆ กุก็คุยแบบกวนตีนๆ ตอบกลับไป
มาคุยมาม่อ กุเบื่ออออออ ... กุอยากแด่กกกกก ไอ่ห่า ไม่ใจเรย!
กุเห็นเค้าคุยกันเรื่องมือถือเหี้ยไรนักหนาไม่รู้วว แม่งบ้ามือถือกันโคตร
สุดท้าย ก็ยื่นขี้มาให้กุ ว่าชอบมือถือรุ่นไหน
อ่าว เวรสิกุ มาถามกุทำเหี้ยไร กุก็ตอบเค้าไปว่า
"ไม่รู้เด่ะพี่ มือถือบลิวไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่เรยไม่รู้เรื่อง ขอให้มีโทรก็พอแระ"
"อ้าวเหรอๆ ดีๆๆ น่ารักๆ ไหนๆ พี่ขอดูหน่อยสิ หน้ากากสีหวานจังเรยนะ"
แร้วกุก็เห็นเค้ากดมือถือกุเล่น แร้วเค้ากะผัวพี่รหัส ก็หัวเราะกันกิ๊กกั๊กๆ
กุก็คิดว่า เหี้ยไรวะ เล่นมือถือกุ แร้วแม่งก็หัวเราะ
มือถือนะโว้ย ไม่ใช่คณะตลก ไอ่ห่า

พอแด่กเหี้ยไรกันเสร็จ ก็แยกย้ายกันกลับ ส่วนกุ น้องรหัส หลานรหัส
ก็เดินแร่ดกันต่อ เพราะกุต้องซื้อของ เช่น กระเป๋าเดินทาง
แชมพู ครีมอาบน้ำ โอ๊ย ... เหี้ยไรอีกเยอะแยะมากมาย
พอจะโชว์เบอร์หาเพื่อน เอ๊ะ...เบอร์ใครวะ มาโผล่สายที่โทรออก
นึกไปนึกมา นั่นไง ไอ่สันดาน ต้องเป็นเพื่อนผัวพี่รหัสกุแน่ๆ
มันต้องกดโทร เพื่อจะโชว์เบอร์กุไปที่มือถือมัน
ไอ่คว๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เหี้ยเอ๊ย แม่ง เย็ด สัดม๋า หน้า หอ อี หู
กุว่าแร้ว หัวเราะกิ๊กกั๊กๆ อืม อืม อืม
กุก็เรยโวยวายกะน้องรหัส หลานรหัส ยกใหญ่ แม่ง ไอ่เหี้ยเจ็บใจโว้ย

จากนั้น
กุ น้องรหัสกุ หลานรหัสกุ ก็ชวนกันไปแด่ก Black Canyon กัน
(กุกะน้องรหัสยังไม่เคยเข้าไปสัมผัสเพราะมะมีเงิน บ้านจน)
ส่วนหลานรหัส เคยสัมผัสแร้ว แระมันคงเห็นพวกกุบ่นว่า
"เห้ยแม่ง อยากกินไอ๊ติมว่ะ ห่าเอ้ย"
"อ๊ะ...พี่ๆอยากกินเหรอ งั้นไปกินกัน เด๊วนู๋เลี้ยงเอง"
โอววว...ลาภเป็ด เอ้ย! ลาภปาก
อิดออด เพราะเกรงใจน้องอยู่พักนึง
สุดท้าย สันดานในตัว ก็สั่งให้ขา เดินเข้า Black Canyon สบายใจ

เหี้ยจริงๆเรยกุ หิหิ เหี้ยแบบบริสุทธิ์ปาก กร๊ากกก
คุยกันไปคุยกันมา อย่างเมามันส์ น้องรหัสบอกกุว่า
"เอ๊อพี่บลิว นู๋ได้ข่าวมาว่า พวกพี่ปี 4 มันบอกว่า ตอนบายเนียร์
มันจะไม่มางานกันอ่ะ มันบอกว่า พวกปี 3 น่ะ
จัดให้ตัวเอง เพราะพวกปี 3 กำลังจะออกไปทดลองสอน
ไม่อยากจะไป"

โถ ... ปี 4 หน้า หอ อี หู ทั้งหลาย
กุอยากจะเห็นจริง...จริ๊ง อีห่าตัวไหนที่บอกว่าจะไม่มาน่ะ
เมื่อวาน กุแทบไม่ได้นั่งเก้าอี้ ปี 4 เสร่อมากันเต๊มมม
ควย ค๊วย ควย ค่า
อย่าให้กุได้รู้เชี๊ยววว ว่าใครพูด กุขอถีบยอดหน้างามๆ 1 ดอก เท๊อะ
ชิบหาย พวกกุสู้อุตส่าห์ ออกเงินค่าจัดเลี้ยงให้ปี 4
แร้วเสือกพูดเหี้ยๆงี๊ ถ้ากุรู้ก่อนหน้านี้ กุจะล้มโต๊ะแม่ง
ไม่ต้องด่ง ต้องแด่กเหี้ยไรแม่งแระ ไอ่สาดดดดดดดดด
ดูถูกในน้ำใจกันเกิ๊น หน้าตาแม่งก็ไม่ดี แก่ก็แก่ แร้วแม่งเสือกปากม๋า

พรุ่งนี้
กุต้องไปขึ้นรถ เพื่อไปบางกอก กุไม่อยากไป
แต่กุจำเป็น กุต้องไปบางกอกเพื่อทดลองสอน
ต้องไปกะคนที่กุเกลียด แระมันก็เกลียดกุ ต่างคนต่างเกลียด
เกลียดมันโว้ย ไอ่เหี้ยยยยยย เกลี๊ยดดดดดดด
แม่ง เบื่อ เซ็ง แร้วกุต้องเจอกับอะไรบ้างวะเนี่ย
ไหนจะการเรียนการสอน ที่ไม่รู้จะเอาความรู้ในรอยหยักส่วนไหน
... ไปสอน ...
ไหนจะต้องเจอกับพวกอาจารย์ ที่จะต้องคอยกระแนะกระแหน
(รุ่นพี่บอกประสบการณ์มา ตอนที่เคยไปสอนในหลายๆที่
ว่าต้องเจออะไรบ้าง กุคงต้องเครียดและอึดอัดน่าดู)
ต้องเหมือนติดคุก ขาดอิสรภาพแน่ๆ เห็นอาจารย์แม่งบอกว่า
พวกกุต้องได้พักหอพัก รวมกับเด็กนักเรียน
กรี๊ดด ดดด ดดด ดดด ดดดดดดดดดดดดดด
เห้อ แร้วกุจะมีเวลามาขี้ใส่บล็อกกุอีกเมื่อไหร่วะ
คงคิดถึงบล็อกไปอีกนาน เวลาปวดขี้ แร้วกุจะระบายยังไงดีหนอ
สัดม๋าเอ้ย ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด
กุยิ่งเป็นนางเอกอยู่ จะฝืนยิ้มร่าเริงไปได้ซักกี่น้ำวะ
วู้ โปรดติดตามตอนต่อไป กุจะออกผจญภัย ณ บางกอก
เมืองแห่งแสงสี ที่ทำให้แมงเม่าจากบ้านนา บินเข้ากองไฟนรก
มานักต่อนักแระ กุเกลียดสังคมเหี้ยๆ เน่าๆ ของที่นั่น อย่างแรง!
เกลียดชิบหาย บางกอก!

ภาษาเหนือวันละคำวันนี้ คำว่า ขนมเส้น อ่านว่า ขะ - หนม - เส้น แปลว่า ขนมจีน
แต่งประโยค วันนี่ร่านป้าน้อยขายขนมเส้นโตยก๊ะเจ้า
แปลอีกทีว่ะ วันนี้ร้านป้าน้อยขายขนมจีนด้วยเหรอคะเนี่ย

บ๊าย...บาย
นู๋บลิว เซเลอร์มูน ก๋ากั่น

ป.ล กุคงไม่ต้องบอกลา ใครต่อใครเป็นวรรคเป็นเวร หรอกนะ
กุแค่ไปทดลองสอน ไม่จำเป็นต้องสั่งเสีย กุไม่ได้ไปตายยยยยย ! ! !
โชคดีสัดม๋าทุกคนค่ะ กลัวจริงๆเรยกุ กลัวอารมณ์ตัวเอง กลัวจะอดทนไม่ได้
แร้วเดินเข้าไปตบ อีเหี้ยนั่น - -!

วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2548

ขึ้นเขียง

พรุ่งนี้ ... กุสอบ ...
ทำไมรู้สึกโหวงเหวงจังวะ
เมื่อก่อนกุไม่เป็นงี๊นี่หว่า
นึก นึก นึก ...ไอ่เหี้ย ... กุจำได้แร้ว
ว่าทำไมกุถึงรู้สึกใจแป้วๆ ชอบกล
คือเทอมที่แล้ว วิชาจิตวิทยา กุ ติด ไอ
อิควาย อย่าคิดว่ากุเล่นมุข "ติดไอ หรอออ ไอ เลิฟ ยู เหรอมึง"
สัด ไม่ใช่ มุขนะมึง คราวนั้น ติดไอ จริงๆ
ถ้าเทียบกะสมัยสาวๆ ตอนมัธยม ไอ ก็เหมือน ติด ร
ความจริง กุต้องติด อี คือ ถ้าติด อี หมายถึงต้องลงเรียนใหม่
วิชาจิตวิทยาสร้นตรีนเนี่ยแหละเพราะกุทำข้อสอบไม่ทัน อัตนัยหมดเรย
เชี่ยเอ้ยอุตส่าห์คิดว่า อีกนานกว่าจะหมดเวลา
แม่งเพื่อนเสือกไม่บอกกุว่าคาบสุดท้ายที่กุไม่ได้เข้าเรียนน่ะ(ช่วงอกหัก หนีเรียนไปทำใจ เหี้ยชิบหาย)
อาจารย์บอกว่าถ้าเอาหนังสือเข้าไปดูตอนสอบ จะต้องหมดเวลาสอบเร็วกว่าปกติอีกนะ
เยะเป็ด! แม่งเห้อะ กุไม่รู้ววว กุก็เรยทำแบบสบายๆมารู้อีกทีกุทำไม่ทัน
... สุดท้าย ... สิ่งที่เขียนลงไปในกระดาษก็คือ
"นู๋รักอาจารย์ค่ะ"
บลิวเอ้ย ... นี่มึงคิดว่าอาจารย์เค้าพิศวาสมึงนักเหรอ?
แต่อาจารย์คงสงสารกุ เซเลอร์มูน ตาดำๆ
แกเรยให้ ไอ กุ ไปปวดหัวเล่นๆ แระบอกว่า "ครูไม่อยากให้นู๋ติด อี"
ขอบคุณค่ะอาจารย์ แค่นี้ก็บุญหัวนู๋แร้วล่ะค่ะถ้ากุติดอี นะมึงเอ๊ย
ไม่ต้องคิดเหี้ยไรแร้วโว้ย กุโดนพ่อกุเตะแน่ๆ
กว่ากุจะแก้ได้ ก็ทำกุเครียดไปนาน
เข็ดไงมึง กุเข็ด!
ถึงได้คิดว่า ชิบหายแร้ว พรุ่งนี้สอบจิตวิทยา โอวววกุอ่านเหี้ยไรรึยังเนี่ย
ไอ่ห่าเอ้ย !! อ่านก็เหมือนไม่ได้อ่านรู้สึกทำไมช่วงนี้สมองกุกลวงๆ วะ
เมื่อก่อนก็กลวง มีแต่ขี้เลื่อย เหมาะแก่การเพาะเห็ดขายมาก
เห้ย ... แต่มันไม่ใช่แบบนี้นะโว้ย คราวนี้กุกลวงจริงๆ
กุต้องเริ่มตรงไหน อะไรยังไงตอนเรียนก็แม่งโคตรตั้งใจเยะเป็ดเรย
ไอ่เหี้ย ไปเรียนก็สาย ไม่สบายแม่งก็บ่อย เป็นไงล่ะมึง!
บลิวเอ้ย พรุ่งนี้จะเอาเหี้ยไรไปสอบ?
นั่งคิดกะตัวเองทฤษฎีของนักจิตวิทยาแต่ละคน เข้ามาเต็มหัวเรย
ตีกันตุ้บตั้บๆ ไปหมดแร้วเว้ย
กุจะเอาอะไรไปสอบ กุจะเอาอะไรไปสอบ กุจะเอาอะไรไปสอบ
อีก 5 นาที เที่ยงคืน ถึงเวลาของนางซิน ถอดรองเท้าแก้ว
ส่วนกุ ต้องไปทำการ ออสโมซิส เหมือนเคยงั้นเหรอ?
ไม่นะ ไม่ โอวว ไม่น๊า ... กรี๊ดดดด ดดด ดด
นี่กุมัวแต่ทำไรอยู่วะ? เอาเวลาที่บ่นกะบล็อกไปอ่านหนังสือเซ่
อิเหี้ยยยยยยยยยยยยยยยย อิบลิว อิควาย เอ้ยยยย
เมื่อ 3-4 ปี ที่แล้ว นานชิบหายแร้ว ช่วงเอ็นฯกุก็เป็นแบบนี้
พรุ่งนี้เอ็นฯ กุยังนั่งเล่นเน็ทสบายใจชิบหายไม่รู้สึกสาดม๋าไรซักอย่าง
สบายๆ ไม่มีปัญหา ใครๆก็ทักว่า
"บลิว พรุ่งนี้เอ็นฯ ไม่ใช่เหรอไมมานั่งเล่นเน็ท ?"
อ้าว ... แร้วจะทำไมกุเล๊า เอ็นฯ ติด ไม่ติด กุไม่แคร์นี่
เอ็นฯ ไป กุก็ไม่รู้จะเรียนห่าไร ไม่มีไรที่อยากเรียน
ตอนเอ็นฯ จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ กุก็ไม่ได้คิดอะไรมากแร้วนี่อะไร?
พรุ่งนี้ สอบจริงๆนะโว้ยยยยยย
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกเอาล่ะ พอ พอ พอ
บ่นเหี้ยไรก็ไม่เป็นผลสัดดอกอะไรขึ้นมา กุต้องอ่านหนังสือแล้วใช่ไม๊?
อืม อืม อืม อืม อืมหัวกลวงๆ จะทำการ อัดแน่นไปด้วยวิชาจิตวิทยา
แร้วจะอัดไปได้ไม๊นี่ ... ถ้ามันก็อปปี้ความรู้ลงไปในสมองได้ก็คงดีว่ะ
แม่งเกลียดชิบหาย ที่ต้องมาบ่นให้ใครต่อใครเค้ารู้ว่ากุจะอ่านหนังสือ
เพราะเหมือนใครๆได้ยินก็คงคิดว่า แม่ง เด็กเรียนนี่หว่า เห้ย เคร่งเว้ยเคร่ง
ไอ่สาดดดดดดดดดดด กุขอบอกทุกคนว่ากุไม่ได้เคร่ง
กุควายมากๆ กุกลวงสุดๆ ตอนเนี๊ยะโง่เขลา เบาปัญญา ไม่มีแก่นสาร และหลักลอย
"วันพรุ่งนี้ เป็นวันดี มีการสอบ"
"เธอช่วยตอบ หน่อยได้ไหม ใครเพื่อนฉัน"
"ถ้าเธอตอบ ว่าเธอ เราเพื่อนกัน"
"พรุ่งนี้งั้น ต้องช่วยกัน ฉันลอกเธอ! "
กลอนหากิน ไว้บอกเพื่อน แต่พรุ่งนี้คงไม่ได้จดไก่
ตั้งแต่เรียน อุดมศึกษา ไม่ค่อยได้จดไก่ กัวโดนจับได้
ปอดแหก กัวว่า ถ้าพ่อกุรู้ กุโดนเตะแน่ๆ
ภาษาเหนือวันละคำวันนี้ คำว่า ม่วน อ่านว่า ม่วน แปลว่า สนุกสนาน มีความสุข ได้ใจมากๆ
แต่งประโยค หนังเรื่องนี่ ม่วนไบ้ม่วนง่าว บ่เสียแฮงตี้เสียซะตางมาผ่อ
แปลอีกทีว่ะ หนังเรื่องนี้แม่ง โคตรหนุก ไม่เสียแรงเล๊ยที่กุเสียเงินมาดู
บ๊าย...บาย
นู๋บลิว เซเลอร์มูน ก๋ากั่น
ป.ล ไม่ต้องมาให้กำลังใจกุนะ ตัวกุทำตัวเอง สะใจชิบหาย คนหลักลอย!
กุบอกแร้ว อย่ามาหวังอะไรกะตัวกุมาก บอกไว้สำหรับคนที่หวัง
ถ้าไม่หวัง ก็เรื่องของมึง! ไอ่เหี้ย กุนี่มันเหี้ยที่สุด!

วันศุกร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2548

เหนื่อยสัดม๋า

"จากที่ได้เรียนไปแล้วในวันนี้ งานที่นักศึกษาต้องไปหามาก็คือ ..."
"เอ้า ... ครูมีเวลาให้ทำงาน 1 เดือน นะคะ นักศึกษาต้องไปหา ..."
"เรียนวิชาของครู ไม่ต้องเข้าเรียนหรอกนะ ครูจะให้ไปสอนเด็กที่โรงเรียน"
"เอ๊ะ! บอกให้ไปหาวิจัยๆๆๆๆ แล้วทำไมไปเอาหนังสืออ้างอิงมาก่อน"
"ชั่วโมงหน้า ให้นักศึกษาไปทำสื่อการสอนมา กลุ่มละ 1 ชิ้น แล้วนำมาสอนในชั้นเรียน"
ฉอดดดดดดด ดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ฯลฯ

นี่คือ ... คำพูดของอาจารย์แต่ละคน ที่กุเรียนด้วย (เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ยกตัวอย่างมา)
เย็ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ! ! !
เหนื่อยค่า เหนื่อยมากๆโว้ย
สั่งงานเหี้ยไรนักหนาค๊า ... กุจะตายห่าอยู่แล้ว
กุทั้งเครียด
กุทั้งเบื่อ
กุสับสน
กุปวดหัว
กุเป็นไข้ ตัวร้อน
กุโง่
วิชาห่านั่นก็ต้องส่ง วิชาเหี้ยนี่ ก็ต้องส่ง
โว้ย
รำคาญชิบหาย เมื่อไหร่ มันจะจบจะสิ้นซักทีวะ
กุรู้และเข้าใจดีว่า เรียนหนักแบบนี้ ยังดีกว่า ไปนั่งทำงาน
หลายคนที่เรียนจบทำงานแล้ว อยากกลับมาเรียนอีกครั้ง

... แต่ ...
มันเยอะเกินไป เกินไปจริงๆ แต่บางครั้งกุก็นึกว่า แล้วทีรุ่นพี่คนอื่น
มันทำไมจบไปกันได้วะ ไม่เห็นแม่งจะตายห่าซักคน
แร้วกุจะไม่ผ่านเชียวเหรอ ... คิดแบบนี้ ... กุก็มีกำลังใจ อีกนิสส์
เอ๊า ... อิสาด เด๊วก็ต้องคิดมากอีกแระ หลายงานเกินจนกลายเป็น เลือกไม่ถูกว่า
กุจะทำงานสร้นตรีนไรก่อนดี

~ ในช่วงแต่ละวันของกุ ~
เช้า ==> เรียน
กลางวัน ==> เรียน
เย็น ==> เรียน , ไปสอนเด็กที่บ้าน
ตกดึก ==> นั่งทำสื่อส่งจารย์ (โดยเล่นเน็ทไปด้วย อยู่คนเดียวไม่ได้ กุกัวผี)
บ้าชิบหาย!
เวลาว่าง ... เข้าห้องสมุด ตระเวนแม่งไปทั่วตามที่ต่างๆ
หนังสือที่กุต้องการแม่งก็ไม่มี
ไม่ได้บ้าเรียนนะ แต่มันจำเป็น แม่จำเป็นลู๊ก ... แม่จำเป็น
ประสาทจะแด่ก ท้อแท้ กุแม่งก็ร้องไห้
อ่อนแอโคตร

หัวจะระเบิดอยู่แระ ใกล้สอบแล้วๆ
อาจารย์รีบอัดวิชาต่างๆ เข้าสมองอย่างด่วน
เพราะเดือนกุมภา พวกกุ ต้องออกไปฝึกสอนกัน แล้วกุจะรอดไม๊?
จำได้ว่า อาจารย์สอนภาษาไทย ตอนม.6 เคยพูดไว้ว่า
"เรียนไปก็ไร้ค่า ตายห่าก็ลืมหมด แหละโว้ยยยย กร๊ากกก "
(น้ำเสียงเยาะเย้ยเต็มที่)
เออ เห็นท่าจะจริง อิห่า เคยเรียนเหี้ยไรมา แม่งลืมหมดเรยกุ
ตอนนี้ ปวดหัว ตัวร้อน ไข้แด่กแม่งอยู่อย่างนี้ตลอด
ไอ จนปวดหัว ไปหมด เจ็บคอ ต่อไปก็อาจจะตายแระ
- -"
ใครอยากแด่กอะไร สั่งไว้ก่อนกุตายนะ ข้าวต้มกุ้ง , กระเพาะปลา ฯลฯ
เด๊วได้แด่ก แต่ถ้าไม่ตาย ก็อดแด่ก สมหน้ามึง!
กุอยากเห็นหน้า อิห่าตัวไหน ที่เสือกบอกว่า
เรียนครูนะ เรียนง่ายจะตายยย คริคริ

พ่องดิ่ สัด มาลองเรียนแล้วแม่งก็จะรู้ว่า มันหนักหนาสาหัสขนาดไหน
ไอ่เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
กุจะผ่านไม๊เนี่ยยยยยยยยยยย โอ๊ยยยยยยยยย โว้ยยยยย อ๊ากกกกก
กุจะบ้าต๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ภาษาเหนือวันละคำวันนี้ คำว่า กึ๊ดยาก อ่านว่า กึ๊ด - ยาก แปลว่า ลำบากใจ
แต่งประโยค งานแต่งงานของแฟนเก่าวันนี่ กึ๊ดยากไปง่าววว
แปลอีกทีว่ะ ลำบากใจที่จะต้องไปงานแต่งงานแฟนเก่าวันนี้ชิบหาย

บ๊าย...บาย
นู๋บลิว เซเลอร์มูน ก๋ากั่น

ป.ล พี่ไอ้สวะ! ที่คะยั้นคะยอให้กุอัพบล็อกซะจริงๆ
ไม่มีห่าไร นอกจากจะขี้ ใส่บล็อกให้อ่านว่ะ
อย่ามาเอาเหี้ยไร กะบล็อกบลิวเรยว่ะ น่าเบื่อจะตายห่า
ไปอ่านอะไรสนุกๆของคนอื่นดีกว่า
มีน้องบางคนถามว่า "พี่บลิวคะ ทำไมพี่ถ่อย แล้วจึงชอบสีชมพูล่ะคะ"
ตอบได้คำเดียวค่ะน้อง "กุมันถ่อยหวานไงมึง!"

วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2548

เรื่องของกุ ... ในรอบปี '47


กุยินดีที่สุด


เรื่องที่ 1 กุได้เลื่อนชั้นขึ้นปี 3 ทั้งๆที่คิดว่า กุแม่งเรียนห่วย เกรดลดทุกปี
ต้องเรียนซ้ำแน่ๆ เพราะโง่มากๆ
อิห่า ดีใจชิบหาย แม่งได้อยู่ปี 3 เหมือนเพื่อนๆด้วย เก่งโคตรเล๊ย กรี๊ดดด
(กุคิดว่ากุเก่งแร้วล่ะ ไม่คิดไม่ฝัน กุจะผ่านปี 2 มาได้อย่างฟลุคๆ)
ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีกะชีวิตนักศึกษาของกุซะจริงๆ
เรื่องที่ 2 กุได้เป็นพี่เชียร์ ทั้งๆที่แก่มากแล้ว อยู่ปี 3 เสือกได้คุมเชียร์
ทำใจไม่ได้ ที่เห็นเด็กปี 1 หน้าใสๆ เห็นแร้ว ตาลุกเป็นไฟ
อิห่า จะน่ารักเหี้ยไรกันนักหนา
แต่แกล้งทำเป็นตลกๆไป ในใจนี่แม่ง ดอกเอ้ย เมื่อไหร่พวกมึงจะดำกันซักที
รู้ไม๊ ขาและแขนกุเนี่ย ดำชิบหายแร้ว เพราะตากแดด แต่พวกมึงสิ
ไม่เห็นเป็นเหี้ยไรเรย อืม ... น่ายินดีจริงๆ
ยินดีกะมัน ส่วนกุช้ำทรวง
กุเศร้าใจที่สุด
เรื่องที่ 1 พ่อกะแม่จะขายจิ๊กโก๋ ให้เพื่อนพ่อ ที่เคยเป็นเจ้าของเก่าของมันตอนมันเล็กๆ
(จิ๊กโก๋คือน้องม๋าพันธุ์บางแก้วแท้ๆ รูปร่างลักษณะ หล่อ เท่ห์ บาดใจสาวๆ)
เพื่อนพ่อเคยเป็นเจ้าของเก่าของมัน แต่พ่อกุไปซื้อมันมา
แร้วเพื่อนพ่อมาเห็นตอนมันโต ดูเท่ห์ดี ลักษณะท่าทาง เข้าประกวดได้สบาย
เพื่อนพ่อเรยแม่งชอบมาทาบทามให้ขายจิ๊กโก๋ให้
พ่อก็ไม่คิดจะขาย สุดท้าย ... พ่อกุนึกไงมะรู้ คิดว่าขายดีกว่า

... จากนั้น ...
กุแสดงความเหี้ยของลูกที่ดี ออกมา โดยการไม่พูดไม่คุยกะพ่อแม่
เพราะกุสงสารน้องม๋า ที่เลี้ยงมาตั้งแต่เล็กๆ
ซึ่งกุเคยเลี้ยงเฉพาะตอนมันเล็กๆ จริงๆ แต่ตอนมันโต กุไม่ได้เลี้ยง
- -!
กุไม่ผิดใช่ไม๊? อืม ... กุไม่ผิดหรอก
เรื่องที่ 2 กุกะพี่เอกเลิกกัน ... ยามรักเราต่างไม่ต้องการเหตุผลที่จะรัก ถึงเวลาเลิกกัน
เหตุผลมากมายก็ตามมา ซึ่งจริงๆแล้ว กุรักเค้าแบบหึงหวงห่วงหา ดอกเย็ด!
กุก็แค่หวังดี กะเค้ามากมายก็เท่านั้น อิห่า พูดไปพูดมา เหมือนยกหางตัวเอง

... ช่างแม่ง ...
งงมากค่ะ อะไรวะ เคยเจอหน้ากันทุกวัน อิชิบหาย! หายไป 7 วัน มั้ง ประมาณนั้น
กุก็จะอกแตกตาย ใน msn ก็ไม่ทัก ใน pirch ก็ไม่ทัก เอ๊ะ...ยังไงของมัน??
โทรไปถามจึงได้ความว่า ... ถ้าพี่กลับไปเที่ยวกับเพื่อนๆ บลิวจะรับได้ไม๊?
อ่อ ... อยู่กะแฟนมากๆ คงเบื่อ ตอนนี้ช่วงติด(ควย)เพื่อนนี่เอง
สันดานค่ะ ... กุจึงบอกว่า งั้นขอให้พี่เอกได้เจอคนที่ดีกว่าบลิวนะ
แร้วกุก็ร้องไห้ โทรหาเพื่อน ให้เพื่อนมาปลอบที่บ้าน ตามบทบาทนางเอกหนังไทย
กุนี่ก็เหี้ยจริงๆ แค่เค้าไปเที่ยวกะเพื่อน ก็เสือกห่วงอะไรมากมาย เหอๆ

เมื่อเลิกกัน เวลาเล่นเน็ท กุก็ลบเค้าออกจากลิสต์ msn เวลาเล่น pirch
เห็นชื่อเค้า ออนขึ้นมา กุก็ ออกจาก pirch
พี่เอกบอกกะคนที่กุรู้จัก และเพื่อนๆที่เล่นแร่ดออนไลน์ด้วยกันว่า
รักกุ ห่วงกุ หวังดีกับกุเสมอ
เข้าไปเม้นท์ในอัลบั้มรูปของกุว่า "ทำไมยังคิดถึง" , "ยังรักและคิดถึงเสมอ"
แร้วทิ้งกุไปทำไม?

ทั้งๆที่ตอนนั้น พูดเหมือนมะนาวไม่มีน้ำ ไม่แคร์กุซักนิด
เพื่อนกุบอกว่า "คนเราจะเห็นคุณค่าของสิ่งๆนึง ก็ต่อเมื่อได้เสียมันไปแล้ว
ซักวัน พี่เอกจะต้องคิดถึงมึง เชื่อกุ อิบลิว คนอย่างมึงหายากส์นะ"

รสชาติของน้ำใบบัวบก มันเป็นเช่นนี้นี่เอง ถ้าไม่ได้อกเดาะ จะไม่รู้รส!
เมื่อมีกิจกรรมต่างๆ กุก็แสดง ซิฟิลิส เอ้ย! สปิริต เต็มที่ ให้งานผ่านไปด้วยดี
ยามซ้อมเชียร์ ทำเป็นให้น้องๆหัวเราะ บ้าๆ เฮฮา ปาร์ตี้
กลับบ้าน น้ำตาเปียกหมอนทุกๆคืน นางเอกจริงๆ
เหมือนดาวพระศุกร์ ร้องไห้เพราะโดนคุณภาคย์ปล้ำ
อนิจจา ... สาวเครือฟ้า ... ทาสความรัก
แหวะ!

ฯลฯ (มีอีกตั้งเยอะเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ปล่อยแม่ง ขี้เกียจเขียน กุจะร้องไห้)
เนี่ยแหละ อีกด้านนึงของกุ ซึ่งไม่เหมาะกะหน้าตาซะจริงๆ
หน้าเหี้ยๆ คำพูดถ่อยๆ และหัวใจที่ S e n s i t i v e
ถุย ! ! ! !
กุดีใจสุดๆ
เรื่องที่ 1 ตกลงว่าพ่อกับแม่ไม่ขายจิ๊กโก๋แล้วว เย้ๆๆๆ แม่บอกกะ
เพื่อนของพ่อว่า ... ไม่ขายแล้วค่ะ เพราะจะทำให้ครอบครัวร้าวฉาน
เพราะกุไม่เคยคุยกะพ่อแม่เลย นานเหมือนกัน
แต่ ... กุก็ไม่เคยเลี้ยงจิ๊กโก๋เหมือนกัน ย่ากุพูดลอยๆขึ้นมาว่า
ห้ามไม่ให้เค้าขาย แต่ตัวเองก็ไม่เลี้ยง สู้ให้พ่อแม่ได้เงินดีกว่า
กุผิดเหรอ? กุแค่สงสารว่ามันอยากอยู่กับเจ้าของ มันยังวิ่งตามแม่กุต้อยๆ
ตอนที่แม่เอามันไปไว้ที่ฟาร์มของเพื่อนพ่อ น่าจ๋งจ๋านจะตายห่า
ถึงตอนนี้ กุก็คิดว่ากุไม่ผิดอยู่ดี น่ารักจริงๆ กุเนี่ย - -"
เรื่องที่ 2 กุกับพี่เอก R e t u r n อีกครั้ง ทั้งๆที่บอกกับตัวเองแล้วว่า
ถ้ากุเลิกกัน กุจะไม่ R e t u r n อืม ... กลืนน้ำลายตัวเองดีสัดๆ
แหม ... อิบลิว มึงทำใจไม่ได้ล่ะสิ ควาย อิโง่ อิห่า ดอกทองมากนะมึงนะ
(ขี้เกียจเขียนว่าเรื่องราวเป็นมายังไง ไม่อยากนึกถึงตอนนั้น
เขียนแค่นี้แร้วกัน กุจะร้องไห้)
เรื่องที่ 3 ขอบใจไอ่ห่าบิว Beginsun ที่ทำให้กุได้รู้จักบล็อกเกอร์
ขอบคุณพี่แอนนี่ ศรีอิสาน ที่เป็นแรงจูงใจ ทำให้กุเขียนบล็อกขึ้นมา
เมื่อก่อน เคยเห็นไดอารี่ของเพื่อน มีแต่เรื่องที่เจ็บปวดเรื่องความรัก
หรือไม่ก็พวก กวีติดหัว และคำพูดจาที่ดูน่ารัก ซึ่งมันไม่ใช่ตัวกุ๊
ทำให้กุเบื่อ กุเรยไม่คิดจะเขียนไดอารี่ เหมือนคนอื่นๆ
แต่
วันนึง! ไอ่ห่าบิว เอาบล็อกพี่แอนนี่ให้กุอ่าน
กุรู้สึกถึงความเป็นตัวของตัวเอง ทำให้กุลองเขียนดูบ้าง
บางคนพูดว่า กุเขียนบล็อกเพื่อการตลาดเหรอวะ?
ป่าวนะ กุป่าว นี่คือตัวตนของกุ กุมิได้เขียนเพื่อการตลาด
หรือ
ความต้องการบริโภคของคนอื่น บล็อกกุคือสิ่งที่บ่งบอก
ความเป็นตัวของกุ จะมีคนอ่าน หรือไม่มี กุไม่แคร์
จะมีเม้นท์ หรือไม่มีเม้นท์ กุไม่สน กุเขียนเพราะเมื่อไหร่
ที่กุรู้สึกเหงา กุจะเข้ามาอ่านบล็อกของตัวเองซ้ำไปซ้ำมา
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน ป่าวนะ ป่าวเห่อ
แค่ตื่นเต้น ที่กุก็เขียนอะไรได้เป็นเรื่องเป็นราวซะจริงๆ
อิห่า ... คิดไปเองรึป่าววะกุ กร๊ากกกกกก
กุฉาวโฉ่ที่สุด
แม่ง ทีดารายังมีเรื่องฉาวๆ กุจึงแอบมีเรื่องฉาวๆกะเค้าด้วยเหมือนกัน
บางคนบอกว่า ... กุกะไอ่ห่าบิว เป็นเลสเบี้ยน , คู่ทอมดี้
เยะเป็ด! พวกกุอุตส่าห์ปกปิด เอ้ย! ความจริงไม่ใช่หรอก
แก้ผ้า อุ๊ย! แก้ตัว แก้ตัว แก้ตัว แก้ตัว แก้ตัว แก้ตัว
ว่า
ไม่มีอะไรจริงๆ กุกะมันเป็นเพื่อนรักกัน กุรักมัน แต่ไม่รู้มันจะรักกุรึป่าว
เรื่องของมึง! อิวอก ไงกุก็รักมึงนะเว้ย บิว
เวลากุมีงานๆเยอะๆ ช่วยกุสะสางอีกนะคะมึง หิหิ น่ารักจริงๆนะมึงเนี่ย
กุช็อคที่สุด
คงไม่ใช่แค่กุ ที่ช็อค คนไทยและชาวต่างชาติก็ช็อคด้วย
ก็เรื่อง อิคลื่นทซึนามิ เหี้ยไรเนี่ยแหละ
มันทำลาย และ ทำร้าย ให้ทุกๆคนเสียใจ อำลาปีเก่า ได้อย่างเจ็บปวดจริงๆ
---------------------------------------------------
อยากจะเขียนอะไรอีกมากมาย แต่ไม่อยากจะนึกแล้ว
ปวดหัว หลายเรื่องเกินไป เอาเฉพาะที่กุจำได้เนี่ยแหละ ทุกคนล้วนแต่
มีเรื่องที่ต้องจดจำ ดีใจ เสียใจ เศร้าใจ เจ็บปวด หรือน่ายินดีทั้งนั้น
ไม่ว่าตอนนี้ใครก็ตามเจ็บปวด เศร้าใจ กับเรื่องใดๆ
ขอให้รู้สึกดีขึ้น เรื่อยๆ หายเร็วๆนะ
ไม่ว่าตอนนี้ใครก็ตามยินดี มีความสุข กับเรื่องใดๆ
ขอให้รู้สึก และมีความสุข เช่นนี้ไปเรื่อยๆ และตลอดไป
ยิ้ม สิ ยิ้ม เอ๊ะ! กุบอกให้มึงยิ้ม อิชิบหาย
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
รอยยิ้มกลบเกลื่อนอารมณ์งี่เง่าต่างๆของเรา
ได้มากมายนัก เชื่อกุ!

ภาษาเหนือวันละคำวันนี้ คำว่า ลำ อ่านว่า ลำ แปลว่า อร่อย
แต่งประโยค วันนี่ไผยะแก๋งฮังเลมานิ่ ลำไบ้ลำง่าววววววว
แปลอีกทีว่ะ วันนี้ใครทำแกงฮังเลมาเนี่ยยยย อร่อยสุดโคตรจริงๆ

บ๊าย...บาย
นู๋บลิว เซเลอร์มูน ก๋ากั่น

ป.ล ขอบคุณทุกๆคน ที่ทำให้กุมีกำลังใจในการเขียนบล็อก
ขอบคุณที่กุได้เป็นอสุจิของพ่อ 1 ใน 60ล้านตัว ที่เจาะชอนไช
มดลูกของแม่ มาเกิด ขอบคุณที่กุได้เกิดมากับครอบครัวที่อบอุ่น
มีพ่อแม่และญาติพี่น้องที่คอยให้กุเกาะแด่ก อุ๊บส์!
ที่คอยอุปถัมภ์กุอยู่เรื่อยมา
มีเพื่อนๆ มีพี่ๆ น้องๆ ที่เสนอหน้า เข้ามาเสือกรู้จักกะคนอย่างกุ

@^_^@ สวัสดีปี๋ใหม่เจ้า @^_^@


วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2547

ไปไกล ... ตีน!

เมื่อวันพุธ หลังจากแด่กมู๋ทะกันกับเพื่อนๆ
(มีคนเลี้ยงอิ่มจังตังค์อยู่ครบจริงๆ)
กุก็กลับมาพิมพ์งาน วิชาโท จิตวิทยา พิมพ์ไปพิมพ์มา นั่งเล่นเน็ทไปด้วย
ชิบหาย!
กุนึกขึ้นได้ เวรแล้ว นี่มันดึกแล้วนี่หว่า พรุ่งนี้นัดเพื่อนเช้าสุดตีน ด้วย
ทำไงดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คิดแล้วคิดอีก
ทำไรไม่ได้ สุดท้าย ... แม่ง ก็ต้องนั่งพิมพ์ จนรากแก้วงอกติดเก้าอี้
จนตี 3 กุขึ้นนอนแม่งเป็นไข้ ทั้งไอ ทั้งเจ็บคอ ทั้งหายใจไม่ออก
ทั้งจาม (ขี้มูกไหลเป็นเต้าส่วนแลดูน่ารับประทานจริงๆ)
แต่ขอโทษ กุหยิ่ง! ไม่แด่กยา โฮะๆ คิดว่า พรุ่งนี้กุก็ไปเรียนด๊ายย สบ๊าย!
อิห่า ที่ไหนได้ เช้ามา แรงควายที่เคยมี เสือกหายไป กลายเป็นนางเอก
ไม่สู้คน ไม่มีแรงทำเหี้ยไรเรย ต้องโทรบอกเพื่อน เห้ยกุไปไม่ได้นะมึง
ไข้แด่กค่ะ มึง กุขอโทษ มาเอางานที่กุพิมพ์ให้มึงด้วยแล้วกัน

... จากนั้น ...
กุก็ น็อค!
..........................................
ตอนเย็น
....................................................................

ย่ากุ : บลิว ใครมาหน้าบ้าน ออกไปดูดิ๊
กุ : อ้าว พี่โอ๊ต มาได้ไงเนี่ย มาๆ เข้าบ้านมาก่อน มีไรป่าวน่ะ มาซะเย็นๆค่ำๆ แบบนี้
พี่โอ๊ต : อ่อ บลิว วันนี้พี่มาหาเรานั่นแหละ คือพี่จะมาเสนอ
เกี่ยวกับเรื่อง ที่พี่ทำงานอยู่ บริษัท กิฟฟารีน นั่นแหละ
ค + ว + ย
ค่ะ
กุว่าแล้วไงคะ ว่าต้องมาชวนกุทำงาน นี้
เมื่อก่อน เพื่อนกุก็คนนึงแร้ว แม่งชวนคนนั้นคนนี้ มาบ้านกุ
เพื่อมาพูดเกี่ยวกับ แอมเวย์ กุก็ปฏิเสธไปแล้ว ตั้งหลายครั้ง แม่งก็ตื๊อ
กำลังขี้อยู่อย่างสบายใจ ชิบหาย ... พาใครไม่รู้เข้ามารอกุในบ้าน
อิเหี้ย ... ขี้ไม่สบายเรยมึง! พอรู้ว่ามีคนรอเนี่ย
... ขี้เกรงใจ ...

" มาๆ บลิว พี่จะพูดเกี่ยวกับแผนการทำงานพวกนี้ให้บลิวฟังนะ"
พี่โอ๊ต : บลิวเคยฝันไม๊ อยากมีบ้าน อยากมีรถ อยากไปต่างประเทศ?
กุ : อืมๆ (เข้าข่ายเหมือนแอมเวย์เด๊ะ)
พี่โอ๊ต : อืม ... ทุกคนล้วนแต่มีความฝันนะแต่อยากให้มันเป็นจริงไม๊
กุ : อืม แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอกพี่ (เพราะกุเคยฟังมาแร้วโว้ย!)
พี่โอ๊ต : บลิว มันเป็นไปได้สิ นู๋อย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้
เนี่ยเด๊วพี่พูดให้ฟัง ว่าแผนทั้งหมดเป็นยังไง
แร้วพี่โอ๊ต ก็พูดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หูดับตับไหม้
ส่วนกุก็นั่ง อืมๆ ๆ ๆ ๆ
ไอ่หัวน่ะ ไม่ได้คิดตามที่พี่โอ๊ตมันพูดเกี่ยวกับแผนห่าดอกไรนั่นหรอก
เพราะกุเป็นไข้ ใครแม่งจะไปอยากใช้สมองคิดตามวะ
ถามไรกุก็ อืมๆ ฮื๊ออ ไม่ๆ อ่อๆ ค่ะๆๆ อืมๆๆ แร้วไงต่อ อ่อๆ เออๆ
ใจกุนี่ เมื่อไหร่มึงจะกลับๆๆๆ ทวนอยู่ในใจเป็นร้อยๆรอบ
เพราะกุก็จะตายห่าเอา แร้วเสือกแม่ง แผนเหี้ยนั่น
มันอะไรนักหนา ?

"บลิวคิดดูสิ เงินเราจะได้เป็นกอบเป็นกำ ดูตัวอย่างนะ
อย่างพี่คนนี้" **** แร้วพี่โอ๊ตก็ชี้ให้ดูภาพผู้ชายคนนึงกะลัง
ยืนเก๊กท่า หน้าตากวนสร้นตรีน! ด้านหลังมีรถเก๋งคันงามสีดำ
ด้านหลังรถเก๋งก็มีบ้านหลังใหญ่ๆ หลังนึง ****
"บลิวเห็นพี่คนนี้ไม๊ เค้าเคยเป็นคนขายขนมพวกทองหยิบ
ทองหยอด (ดอกทองไรนั่น ช่างแม่ง กุจำมะได้แระ)
แต่พี่เค้ารู้จักกิฟฟารีน ดูภาพนี้สิ **** พี่โอ๊ตชี้ไปที่รถเก่าๆคันนึง
คาดว่าจะเป็นรถที่ใช้ขายขนม ที่เราเคยเห็นกันบ่อยๆตอนกลางคืน
(ถ้าใครไม่เคยเห็น แสดงว่ามึงบ้านนอก รู้ตัวไว้ด้วยนะ)
มีไอ่หน้าสร้นตรีนคนเดิม ยิ้มอย่างสบายใจ ****
กุไม่เห็นหน้าตาจะทุกข์เหี้ยไรเรย กะการขายขนม
แร้วพี่โอ๊ต แม่งก็พูดๆๆๆๆๆๆ เอ้า มึงพูดเข้าปาย
ตากุก็จะปิดลง ปิดลง ทั้งง่วง ทั้งตัวร้อน
พูดไปพูดมา พี่โอ๊ต มัดมือชกกุ ด้วยการยื่นใบสมัครกิฟฟารีน
ให้กุ กุก็รับมา ด้วยความ งงๆ ง่าวๆ พี่โอ๊ตบอกว่า
"บลิวกรอกซะนะ แร้วเด๊วพี่จะมาเอา"
กุก็บอกพี่โอ๊ตว่า
"โอ้ย...ไม่เอาอ่ะพี่โอ๊ต บลิวยังไม่อยากทำ"
"บลิว มันไม่ใช่การขายสินค้านะ มันคือแค่การแนะนำ
เราไม่ต้องไปเดินขาย เพียงแต่เราใช้ผลิตภัณฑ์
แร้วเด๊ว คนอื่นเค้าเห็นว่า เราใช้ดี เค้าจะถามเราเอง
ไม่ต้องเหนื่อยเรย อีกอย่างนะบลิว ~~~~~~~~~~~~~ ฯลฯ

เราได้เงินเป็นหมื่นๆ แสนๆ !!!
แร้วบลิวดูหน้านี้นะ (พลิกอีกหน้านึง พรึ่บพรั่บๆ)
เนี่ยนะ เรามีแบ่งกันไว้เป็นขั้นๆ สำหรับคนที่ทำยอดได้สูงๆ
เท่าที่กุจำได้ก็จะมีขั้น จูปิเตอร์ เมอร์คิวรี ไรเนี่ยแหละ แร้วก็ ฯลฯ
ดีนะ ไม่มี เซเลอร์มูน ของกุด้วย อิวอก เยะเป็ด!
-----------------------------
กุจำไม่ได้ว่าพี่โอ๊ต สาธยายไปกี่ชั่วโมง
กุจำได้แค่ว่าในหัวกุนึกถึง ที่นอน ๆๆๆๆ ยา ๆๆๆๆๆ หลับ ๆๆๆๆ แค่นี้ ...
เหมือนสวรรค์มาโปรด พ่อกะแม่กุกลับบ้านมาพอดี
พี่โอ๊ต ก็เรยบอกว่า เด๊ววันหลังพี่มาใหม่นะ จะชวนให้พ่อแม่บลิวทำด้วย
กรี๊ดดดดดด ดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดด
นี่ชวนกุยังไม่พอใช่ไม๊? จะเอาพ่อแม่กุไปด้วยเรอะ!
แร้วพี่โอ๊ต ก็กลับไป กุก็เม้าท์ให้พ่อแม่ฟัง เค้าก็บอกว่า
"อืมๆ ฟังไปเหอะ แต่ไม่ต้องทำ มันเชื่อไม่ได้อยู่แล้ว"
เหตุการณ์แบบนี้ ทำให้กุนึกถึง เพื่อนบางคน ที่ชอบชักชวน
ให้กุกะเพื่อนๆ ในกลุ่ม ไปเข้าศาสนา ของเค้าด้วย
กุก็ปฏิเสธบ้าง ไปร่วมกิจกรรมบ้าง
ไม่เกรงใจกุบ้างเล๊ย จนกุต้องไปกะเค้า
เพราะกุเกรงใจที่เค้าชวนกุบ่อยเหลือเกิน
สมควรไม๊?
- -!

กุไม่ได้ลบหลู่ศาสนา หรือ บริษัทของใครนะ
แต่การทำแบบนี้ ชักชวนให้เข้าโน่นเข้านี่ ไม่ว่า
จะเป็นอะไรก็ตามที่มันเป็นเครือข่ายแด่กต่อๆกันแบบเนี๊ยะ
มันทำให้กุเบื่อ ... กุเซ็ง กุเครียด ...
กุไม่ชอบโว้ยยยยยยยยยยยยยย อิเหี้ยยยยยยยยยยย
... ฉะนั้น ...
------------------------------------------------
ไปไกล ... ตีน!
***************************

ภาษาเหนือวันละคำวันนี้คำว่า ง่าว อ่านว่า ง่าว แปลว่า โง่ งี่เง่า stupid
แต่งประโยค ไอ่วอกนี่มันหยังมาง่าแต้ง่าวว่า สอนอะหยังกะบ่ฮู่เรื่องซักอย่าง
แปลอีกทีว่ะ ไอ่ห่านี่ทำไมมันโง่ชิบหาย สอนเหี้ยไรก็ไม่รู้เรื่องซักอย่าง

บ๊าย...บาย
นู๋บลิว เซเลอร์มูน ก๋ากั่น

ป.ล ใบสมัครที่พี่โอ๊ตให้ไว้ กุก็ไม่ได้กรอกสัดม๋าไรเรยซักอย่าง ปล่อยแม่ง!
โอ้ว...พี่โอ๊ตโทรมาพอดี จะให้กุไปนั่งฟังการบรรยายที่ไหนมะรุ้ววว
เกี่ยวกับสรรพคุณของกิฟฟารีน อิสันขวาน! กุไม่ไปว้อย
กุก็อ้างนู่นอ้างนี่ หุ้ย ... เบื่อสาดดดดดด

วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2547

หมอ...นู๋เสียว!

เมื่อคืนหลังจากบ่นกะเพื่อนๆที่แร่ดออนไลน์ด้วยกันว่า
กุเสียวฟัน! เสร็จแล้ว กุก็กะว่า เออวันนี้กุนอนเร็วหน่อยดีกว่า
พรุ่งนี้กุจะได้ตื่นแต่เช้ารีบไปเรียนให้ตรงเวลา
บอกแม่ตั้งแต่ตอนเย็นว่า
แม่เจ้า ซื่ออีโมฟอร์มมาฮื่อโตยเน่อ เสียวฟัน แอ่
(แม่จ๋า ซื้ออีโมฟอร์มมาให้ด้วยนะ เสียวฟันค่า)
ทั้งๆที่ทุกๆวันที่ผ่านมา อาการเสียวฟันก็อยู่คู่กับกุมาตลอดแต่ไม่ได้ปวดเหี้ยไรมาก
แต่พอเมื่อวานที่ฝากแม่ซื้ออีโมฟอร์มมา แร้วกุก็ใช้ แร้วกุก็ขึ้นนอน
อิห่า...นอนไปได้ซักพักพอเคลิ้มๆ เสือกปวดฟัน อย่างแรง! สุดยอด
กุปวดเหี้ยๆ นอนบิดไปบิดมา ร้องห่มร้องไห้ ทั้งคืน
เหมือนอีบ้าเรยกุ (ตอนไม่เป็นไรก็เหมือนอยู่แล้วนะนี่กุ)

ตอนแรกคิดว่าจะหายที่ไหนได้
อิดอก ... กุไม่ได้นอนแม่งเลย ยันเช้า ช่วงตี 4
 โทรหาเพื่อนแบบไม่เกรงใจเหี้ยไรมันเลย
ถามเพื่อนว่าทำไงดีๆๆ กุปวดฟันๆๆ กุยังไม่ได้นอนเลยทั้งคืนทำไงดีๆ
เพื่อนกุบอกว่า เห้ย มึงอมเกลือเด้ ไม่ต้องแด่กน้ำ อมเกลือไปก่อน
แร้วตอนเช้าค่อยไปหาหมอ เอ้า กุเชื่อเพื่อนค่ะ กุก็ไปเอาเกลือ
ที่อยู่ในกระโปก เอ้ย! กระปุก มาอมๆๆ สาดดดดดดดดเยะ แสบเหงือกโคตร
แต่เอาวะ กุต้องทนให้ได้ พรุ่งนี้เช้ากุจะไปหาหมอ
พอเช้าปุ๊บ กุเสือกหลับไปตอนไหนไม่รู้ววว อาการปวดห่าวอกนี่ก็ไม่มีแระ
เออดีแฮะ ดีจริงๆเรยกุ เมื่อคืนไม่ได้หลับเรย เสือกมาหลับได้ตอนเช้า
เพื่อนกุโทรมา เห้ยบลิวมึงเป็นไงบ้าง คุยกันไปได้ซักพัก เพื่อนบอกว่าเออไม่ต้องมาเรียน
วันนี้อาจารย์ไม่อยู่ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด โชคดีเยะเป็ดเรยว้อยไม่ต้องเขียนใบลา
ประมาณ10โมงกว่า แม่พาไปสาธารณสุข แต่มันปิดบริการแล้ว
บอกว่า "ตอนเที่ยงครึ่งจะเปิดอีกรอบนึงนะคะ" ชิบหาย คนก็เยอะ
แม่บอกว่าไม่ต้องรอหรอก แม่รีบไปเผาศพที่คอนหวัน ไปคลินิกดีกว่า
ว่าแล้ว แม่ลูกคู่ดูโอก็พากันไปคลินิก

หมอตรวจๆเช็คๆๆ ซักพัก ให้กุไปนอนที่เตียง
บรรยากาศภายในห้อง ทำฟัน!
หมอ : อาการเป็นไงเหรอคับ เสียวฟันเหรอคับ อืมๆๆ เด๊วหมอตรวจให้นะคับ
อ้าปากกว้างๆคับ อ้าๆ ใช่คับดีมาก อ้ากว้างๆ
กุ : อ้า อือ อา โอวว งื่อออ อื้มมมมมมม
~ คร่อกๆๆๆ แคว่กๆๆๆ ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ~
หมอ : นั่นแหละคับ อ้ากว้างๆ ใช่คับใช่ อืมๆ กว้างๆนะคับ
กุ : งื่ออ อุ๊ย! อ้า... ฮื่ออออออออออออ
หมอ : เสียวเหรอคับ เด๊วก็เสร็จแล้วนะ อ้ากว้างๆคับ
กุ : หมอคะ มันเสียวอ่ะ อื๊ออออออ งื่ออออ โอยยยยย
~ ตื๊ดดดด คร่อกๆๆๆๆๆ ติ๊ดๆๆๆๆๆๆ ฟู่วๆๆๆๆๆๆๆ คร่อกๆๆๆ ~

หมอ : เอ้าอีกแป๊บเดียวนะคับ ใกล้เสร็จแล้ว
เวลาผ่านไป เป็นชั่วโมง ไอ่ปากที่อ้ากว้างๆเพื่อคุณหมอนั่น ก็เริ่มจาค้างแระ

... และแล้ว ...
"เอ้าเสร็จแล้วนะคับ บ้วนปากได้เลยนะคับ แล้วก็ออกไปรอหมอข้างนอกนะ"
ต่อจากนั้น หมอก็สาธยายว่าได้ทำมิดีมิร้าย กะช่องปากของกุไว้ยังไงบ้าง
นี่นะครับ หมอจะให้ยาไปกินนะครับ
อันนี้ทานหลังอาหาร เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน
ส่วนอันนี้ก็ทานหลังอาหาร เช้า กลางวัน เย็น นะคับ
อ่า ... ส่วนค่ารักษาทั้งหมดก็
ค่าอุดฟันซี่ใหญ่ ใหญ่มากนะคับ หมอคิดเป็น เงิน ...
ค่าอุดฟันซี่เล็กเหี้ยนี่ หมอคิดเป็น เงิน ...
ค่าขูดหินปูนฟลูออไรด์ห่าเหวนั่น หมอคิดเป็น เงิน ...
ค่ายา 2 ซอง นี้ หมอคิดเป็น เงิน ...

เบ็ดเสร็จที่แม่กุต้องจ่ายเงินคือ เก้าร้อยกว่าบาท ไอ่กว่าบาทห่าดอกนี่
กุขอไม่พูด พูดแล้วจะยิ่งปวดใจหนักเข้าไปอีก (ไม่ใช่ไรหรอก กุจำไม่ได้แระ)
ทั้งปวดฟัน ปวดใจ ชิบหาย เหยียบพันเรยกุ
"เออ ... น้องคับ ไม่ทราบว่าใช้อะไรบ้วนปากอยู่รึป่าว"
"อ่อ ใช้ค่ะ เมื่อวานซื้ออีโมฟอร์มมาบ้วนปาก แต่ใช้แล้วก็ปวดฟันมากเลย"
"ท่าทางจะแพ้นะคับเนี่ย ถ้ายังไง ลอง Colgate Total Plax Fresh ดูสิคับ
มันจะทำให้ช่องปากสะอาด ไม่เสียวฟัน อม 2 นาที และ ฯลฯ"
ห่ามากค่ะ คุณหมอ หลอกขาย น้ำยาบ้วนปากกุ
กุแระแม่ก็ต้องซื้อ เพราะกุใช้อีโมฟอร์ม แร้วแม่ง ห่วยแตก เหงือกพัง
ก็ต้องจำยอม

สร้นตรีน!
แค่มาให้หมอฟัน! เอ้ย ... แค่มาให้หมอรักษาฟันเนี่ย อะไรมากมายเนี่ยกุ
อิเหี้ย! ทำไมมันแพงอย่างนี้วะเนี่ย ก็ได้แต่คิดล่ะวะ
แม่บอกว่า ทำไงได้ ให้ไปรอที่นั่นก็นาน คนก็เยอะ
แค่นี้ก็ทำเพื่อลูกไม่ได้เชียวเหรอ
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด แม่ขรา รักแม่จริงๆนะคะเนี่ย
จรุ๊บๆๆๆๆ

ในที่สุด กุก็พาเหงือกอันบอบช้ำ กลับบ้านมา ชอกช้ำระกำทรวงที่สุด
แด่กไรก็ปวดฟัน เสียวฟัน อยู่นั่น รำคาญจริงว้อยยยยยยยยยยย
เมื่อไหร่จะหายวะกุ๊ - -!

ภาษาเหนือวันละคำวันนี้ คำว่า ไค่ลั๊บ อ่านว่า ไค่ - ลั๊บ แปลว่า ง่วงนอน
แต่งประโยค ตะคืนนี่บ่ได้ลั๊บได้นอนเจ๊บเขี้ยวง่าว วันนี่กะเลย ไค่ลั๊บขนาด
แปลอีกทีว่ะ เมื่อคืนนี้แม่งไม่ได้นอนเหี้ยไรเรยปวดฟันชิบหาย วันนี้เรยง่วงนอนโคตร

บ๊าย...บาย
นู๋บลิว เซเลอร์มูน ก๋ากั่น

ป.ล กุคงแด่กเหี้ยไร มะค่อยได้ไปอีกนาน กุจะดีใจหรือเสียใจกันแน่วะเนี่ย
แง้ T_T อยากร้องไห้

วันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2547

เธอสวย

เสาร์ที่ 4 ธ.ค. 47
คณะกุมีกิจกรรมสานสัมพันธ์ฯ
ไปแต่เช้า ... รถมหาลัยก็ยังไม่มารับซักกะที
รอแล้ว ... รออีก รอจนรากแก้วกุจะงอกติดกะเก้าอี้
นัดน้องไว้ 7 โมงครึ่ง รถเหี้ยนี่ มาตอน เกือบ 9 โมงเช้า
ด้วยเหตุผลที่ว่า ... ลุงคนขับรถลืม! อิสาดดดดดดดดดดดดดด

กุอุตส่าห์ตื่นแต่เช้า ชิบหายยยยยย เสือกลืม เหตุผลดี ดีเหี้ยๆเรยมึง!
ไปถึง ก็มีพิธีเปิดโดยคณบดีของมหาลัยเจ้าภาพ
 แร้วก็มีการแสดงของมหาลัยกุ กับมหาลัยเจ้าภาพ
เริ่มแรกด้วยการแสดงของเจ้าภาพมาในเพลง dhoom dhoom ของ tata
มีกะเทย 2 คนออกมาเต้น พร้อมกับน้องผู้หญิงอีกคน


น้องผู้หญิงเป็นสาวลูกครึ่ง ตัวใหญ่ๆ ถึกๆ
เสียงตอแหลๆ แจ๋นๆ แปร๋นๆ
กุถามเพื่อนที่เป็นสโมฯ ฝั่งเจ้าภาพว่า "เห้ย น้องคนนี้ใครอ่ะ"
เพื่อนบอกกุว่า "อ่อน้องเอมมี่น่ะ น้องปี 2 เค้าจะดูแรงๆหน่อย
เพราะเค้าไปเรียนเมืองนอกมา ตอนแรกกุคิดว่า เป็นเด็ก AFS
ที่ไปเรียนแลกเปลี่ยนกับฝรั่ง มันแกว มะม่วง เหี้ยไรนั่นแหละ
แต่ไม่ใช่!

เชษฐ์บอกกุว่า น้องเค้าเป็นลูกครึ่ง โอ้วววว ไม่นะ อิห่านี่เนี่ยนะ
ลูกครึ่ง? เด็กลูกครึ่งในสายตากุจะต้องขาว สวย สูงโปร่ง น่ารัก
... แต่ ... อิเอมมี่ มันไม่ใช๊ ... กุไม่ได้ดูถูกคน แต่ดูท่าทางที่มันแสดงออก
โคตรตอแหล!!!!!!!
กุถามเชษฐ์ว่า "อ้าวแล้วพ่อหรือแม่เนี่ย เป็นฝรั่ง"
เชษฐ์บอกกุว่า "อ่อ พ่อเค้าเป็นฝรั่งน่ะ ส่วนแม่เค้าเป็นคนไทย เอ่อ...
แต่หน้าน้องเค้าอ่ะ จะออกไปทางแม่มากๆเลยล่ะ หน้าน้องเค้าเหมือนแม่"
ก๊ากกกกก ชิบหาย กุว่าแล้วไง ติดทางแม่เยอะไปหน่อยนี่เอง
เวลากุสั่งเชียร์อยู่ แม่งก็จะชอบเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วฟังพวกกุร้องเพลง
(มันเป็นพิธีกรภาคสนาม)
พอมันฟังว่าพวกกุร้องเพลงเหี้ยไรกัน มันก็ประกาศใส่ไมค์ เช่น
"อุ๊ยๆๆ ร้องบ้านทรายทองค่ะ"
"กรี๊ดๆๆ ไก่ย่างค่ะ"
ค่ะ
มึงจะบอกคณะมึงออกอากาศทำเหี้ยไรเนี่ย น้องกุร้องเพลงอยู่ดีๆเสียself เรยมึง!
ชิบหาย จะร้องเพลงเหี้ยไรทำไมต้องคอยมาสาระแนนัก
กุไม่เข้าใจว่า จะเสือกสร้นตรีนไรนักหนา กุรู้ว่าพิธีกรภาคสนามเป็นไง
แต่ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้ เหมือนกะว่า เออนะ ดูถูกว่าพวกกุเนี่ยนะ
ร้องเพลงกันไมได้เรื่องเรย ไม่ใหม่ ไม่เจ๋ง เหมือนของมัน เสียใจ กุเอามันส์!
กุไม่จำเป็นต้องร้องเพลงเจ๋งๆ ไพเราะเพราะพริ้ง เพราะกุต้องการ
ให้น้องกุมันได้ร้องเพลงเชียร์กีฬาที่กำลังแข่งอยู่บ้าง ก็เท่านั้น
เวลาเล่นแชร์บอล "น้องเอมมี่" เธอก็ลง ม.น ได้แต้มมากกว่าพวกกุ
ส่วนใหญ่ก็ฝีมือน้องเอมมี่ นั่นแหละ เพราะเธอ สวยถึกและบึกบึน
ตัวสูงหน่อย เพื่อนกุที่อยู่เอกคณิต ก็บอกกุว่า "เห้ยบลิวมึงไม่ลงบ้างเหรอวะ
ไปแข่งกะอิเสื้อส้ม" (อิเสื้อส้มคืออิเอมมี่)
กุบอกว่า "ไม่เอาล่ะ กุขอสั่งน้องข้างบนนี่ดีกว่า กุไม่อยากเทียบรัศมีคนสวย"
กุไม่ได้คิดดูถูกคนเรื่องสวยไม่สวย เพราะกุก็หน้าตาทุเรศเช่นกัน
เพียงแต่ว่า กุไม่ชอบที่ว่า ทำตัวแจ๋น ชอบมองคนอื่นแบบตอแหล
ขนาดกุไปนั่งกะพวกน้องๆ ปี 1 ของ ม.น น้องมันยังบอกเรยว่า
"พี่เอมมี่ เหรอ พวกนู๋ไม่ค่อยสนิทหรอกค่ะพี่ เพราะพี่เค้าไม่ค่อยยิ้มให้ใคร"
เหมือนว่า กุนี่นะ เด็กนอก เด็กลูกครึ่งนะมึ๊ง อย่าเข้ามาใกล้กุนะ
กุเด็กนอก ... แร้วไงวะ กุไม่เข้าใจ เด็กนอกนี่ กุต้องกราบเลยไม๊?
ไงมันก็คนเหมือนกันแหละวะ แต่ทำตัวดูถูกคนอื่น
คนนิสัยงี๊ รีบไปให้ไกลๆตีนกุเลยว่ะ กุโคตรเซ็ง -"-
พอการแข่งขันจบ น้องเอมมี่ดอกทองนี่ก็เดินเชิ่ดหน้า คอตรง
ออกจากสนาม ไปกะเพื่อนๆ กะเทย ที่เป็นเบ๊ มัน
(กุเดาเอา เห็นเดินตามตูดกันต้อยๆ ยังกะม๋าตามขี้)
จบงานพวกกุก็รอรถมารับ กุเอารถไปที่ ม.น กันเอง แต่ก็ยังกลับกันไม่ได้
เพราะน้องปี 1 ยังกลับไปหมด เนื่องจากรถมารับแค่คันเดียว
ส่วนอีกคัน ชิบหาย แม่งนานสัดๆ พวกน้องๆกุ
ก็เลยตีกลอง ร้องเพลง กัน ตามสันดานหน้าด้าน ที่พวกกุเสี้ยมสอนมา
เพื่อนๆที่ ม.น บอกว่า "น้องๆแกนี่ กล้าดีเนาะ ใช้ได้"
กุก็บอกว่า "เออ นึกไม่ออกเหมือนกันว่า ปี 1 มันยังขนาดนี้
พอขึ้นปี 3 เหมือนพวกชั้น ไม่รู้แม่งจะเป็นไง"
พาลทำให้นึกถึงตัวเองเหมือนกัน เพราะตอนปี 1 กุก็งี๊
พอปี 3 กุก็เป็นงี๊ แม่ง เหมือนส่องกระจกดูตัวเองเลยว่ะ ห่าเอ้ย!
เต้นแร้งเต้นกา กันอยู่นานมาก พวกที่เดินผ่านไปผ่านมา แม่งก็มอง
พวกเพื่อนๆ ม.น มันก็หัวเราะกัน แบบ ตลกที่น้องๆกุมันทั้งร้องทั้งเต้นไม่อายใคร
จนกุต้องตะโกนไปว่า "เห้ยน้องใจเย็น เก็บกดไรกันป่าวน่ะ"
พวกเพื่อนๆกุแม่งก็หัวเราะกัน ก๊าก เลย ช่างแม่งเหอะ
ในเมื่อมันไม่อาย แร้วกุจะอายทำไม ตัวมันยังไม่อาย เหอๆ
สุดท้ายรถมหาลัยก็มารับ พวกกุก็ส่งน้องขึ้นรถ
แล้วกุก็ลาเพื่อนๆ ม.น ที่ยืนส่งพวกกุ จนขี่รถ ออกจาก โดม
เสร็จสิ้นบริบูรณ์อีกหนึ่งงาน แม่งปวดเนื้อปวดตัว เต้นมันส์จัด
ไม่เต้นก็ไม่ได้ น้องร้องเพลงกันไม่ออก สาดม๋า
ลำบากกุอีก อิหัวขวด
ภาษาเหนือวันละคำ คำว่า ปั๊กกะตื่น อ่านว่า ปั๊ก - กะ - ตื่น แปลว่า ตำรา
แต่งประโยค ตุ๊ปี้คับ จ้วยเปิดปั๊กกะตื่นตั้งจื้อฮื่อลูกสาวผมจิ่มเต๊อะคับ
แปลอีกทีว่ะ หลวงพี่คับ ช่วยเปิดดูตำราตั้งชื่อให้ลูกสาวผมหน่อยเถอะคับ
ป.ล ขอบใจน้องเอมมี่ ที่ทำให้กุได้รู้ว่า เด็กลูกครึ่งใช่ว่า จะ ขาว สูง เซ็กส์ เสมอไป
ขอบใจที่ทำให้กุรู้ว่า เด็กนอกเอาขึ้นหิ้งบูชา ได้ด้วย
ระวังไว้เหอะมึง! จะโดนกุตบ ด้วย หางตา !! โฮะๆๆ
บ๊าย...บาย
นู๋บลิว เซเลอร์มูน ก๋ากั่น